ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
(เจริญ ญาณวรเถร)
๒๔๖
เจริญให้เกิดแก่ผู้บำเพ็ญ มีความสังเขปว่า กุลบุตรผู้เป็นขัตติราช ได้รับมุรธาภิเษกแล้ว ก็ดี มียศ
ไม่ถึงนั้น แต่เป็นผู้ครองแว่นแคว้นสืบมาโดยวงศ์ก็ดี เป็นแต่นายทัพ นายกองนายบ้านก็ดี แม้
โดยอย่างต่ำ เป็นใหญ่ เฉพาะในสกุลหนึ่งก็ดี มาสักการะเทวดาเหล่าพลิปฏิคาหกผู้รับพลีกรรม
ด้วยโภคทรัพย์ที่แสวงหาได้มาแล้วโดยธรรมสุจริต เทวดาทั้งหลายนั้น อนุกุลบุตรสักการะแล้ว
ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรนั้นด้วยจิตเป็นกุศลกอปรด้วยเมตตา หวังให้กุลบุตรนั้นดำรงชนมายุยืน
นาน กุลบุตรอันเทวดาอนุเคราะห์ด้วยกัลยาณจิตอย่างนั้นแล้ว เป็นหวังความเจริญได้ไม่มีความ
เสื่อมเลย
แลเทวดาจะอนุเคราะห์กุลบุตรนั้นก็เพราะมีคุณสมบัติ เป็นปัจจัยมีกำลังเหตุดังนั้น สมเด็จ
พระโลกนาถเจ้าจึงตรัสพระธรรมเทศนาเป็นคาถาพจนประพันธ์ว่า หิโต พหุนน์ ปฏิปชช โภเค
กุลบุตรมาปฏิบัติโภคทรัพย์ เกื้อกูลแก่ชนมาก ต์ เทวตา รกฺขติ ธมฺมคุตต์ เทวดาย่อมรักษา
กุลบุตรนั้น ผู้อันธรรมคุ้มครองแล้ว
พหุสสต์ สีลวตูปปนน
เกียรติย่อมไม่ละกุลบุตรนั้นผู้เป็นพหุสูต ถึงพร้อมด้วยศีลแลวัตร ตั้งอยู่ในธรรม
ธมฺมฏฺฐ์ สีลสมฺปนฺน
ธมฺเม ฐิติ น วิชหาติ
กิตฺติ
สจฺจวาที หิรีมน์
โก ต์ นินทิตมรห
พรหมนาปิ ปส์สโต ។
เนกข์ ชมโพนทสุเสว
ใครควรจะนินทากุลบุตรนั้น ผู้ตั้งอยู่ในธรรม ถึงพร้อมด้วยศีล มีหิริในใจ บริสุทธิ์ดุจแท่งนิกขะ
แห่งทองชมพูนุท
เทวาปิ นํ ปสํสนฺติ
ทั้งเทวดาทั้งพรหมย่อมพากันสรรเสริญกุลบุตรนั้น
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในอภิลักขิตสมัยนี้ ยัง
ประโยชน์ให้สำเร็จแก่พระพุทธศาสนาแลมหาชนทั่วไป ทรงอุทิศส่วนพระราชกุศลแก่อารักข
เทวดาแลวัตถุเทวดา เป็นธรรมบรรณาการปัจจุปการกิจ ต้องด้วยธรรมเนียมของพุทธศาสนิก
บัณฑิต ดังรับพระราชทานถวายวิสัชนามา เมื่อพร้อมด้วยประโยชสมบัติ จะพึงอำนวยพระราชสิริ
สวัสดิพิพัฒนมงคล พระชนมสุขสถาพรแด่สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า และเป็นพลว
ปัจจัยให้เทพเจ้าอภิบาลรักษาพระองค์ ให้ทรงนิราศสรรพภยุปัทวันตรายทุกทิพาราตรีกาล