การบำรุงสหกรณ์ในสังคม มงคลวิเสสกถา หน้า 104
หน้าที่ 104 / 390

สรุปเนื้อหา

ข้อความนี้กล่าวถึงความสำคัญของสหกรณ์ในสังคมโดยมีพระพุทธภาษิตอ้างอิงถึงความมีสุขโดยไม่ประสบปัญหา การทำงานร่วมกันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสกุลและคณะ สอดคล้องกับหลักการต้องปราศจากการเบียดเบียน และการทำงานร่วมกันส่งผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและความสุขให้กับประชาชน ด้วยการมีสหกรณ์ที่เข้มแข็งและมีการสนับสนุนจากพระราช และการมีความสามัคคีซึ่งกันและกัน

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของสหกรณ์
-การทำงานร่วมกัน
-อุปสรรคในสังคม
-การบริหารและการสนับสนุน
-พระพุทธศาสนาและสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ดงน สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช(กิตฺติโสภณมหาเถระ) ๑๐๗ ฯ ผลนี้ย่อมถือว่าเป็นลาภอันสำคัญ ดังพระพุทธภาษิตว่า “อโรคยา ปรมา ลาภา บรรดาลาภทั้งหลาย มีความหาโรคมิได้เป็นยอด” ฯ สมเด็จพระบรมศาสดาทรงยกขึ้นเป็น เครื่องแนะนำ ภิกษุผู้ได้ผลนั้นให้รีบบำเพ็ญเพียรเพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ ไม่ปล่อยโอกาสให้ ล่วงเลยไปเสีย ฯ ส่วนทั้งหลายย่อมรวมกันเข้าเป็นสรีระฉันใด ปัจจัยเครื่องอาศัยแห่งสังขารคืออาหารเครื่อง นุ่มทุ่ม ที่อยู่อาศัย เครื่องใช้สอย และยาเป็นปัจจัยเครื่องบำบัดโรค ก็ต้องอาศัยสหกรณ์ของผู้ ประกอบและสหกรณ์แห่งวัตถุนั้น ๆ จึงเกิดผลให้สำเร็จกิจตามประสงค์ฉันนั้น ฯ เมื่อกล่าวเฉพาะ บุคคล คนหนึ่ง ๆ หรือพวกหนึ่ง ๆ ที่รวมกันเข้าเป็นหมู่เป็นคณะตลอดถึงเป็นสัญชาติ ย่อมต้อง อาศัยสหกรณ์แห่งกันและกัน ดุจส่วนอวัยวะทั้งหลาย ฯ ในสกุลก็ดี ในคณะก็ดี การปันงานกันทำ เป็นกิจจำต้องปรารถนาในเบื้องต้น สหกรณ์เป็นกรณียะจำต้องการในลำดับการ ๒ อย่างนั้น เป็นไปกลมเกลียวกันแล้ว ย่อมยังสกุลยังคณะให้ตั้งมั่ง ให้เจริญรุ่งเรือง ดุจสหกรณ์แห่งอวัยวะ ทั้งหลายยังสระระให้เป็นไปอยู่โดยผาสุก ฉะนั้น ฯ บำรุงสหกรณ์อันเป็นรัฐประศาสนนัยครั้งโบราณกาล สมเด็จพระบรมศาสดาหวังวะทรงแสดงการ ได้ตรัสเทศนาถึงเรื่องพรเจ้ามหาวิชิตราช ในกฏทันตสูตรสีลขันธวรรค ทีฆนิกาย มีใจความว่า พระเจ้ามหาวิชิตราชทรงดำเนินพระราโชบาย เพื่อระงับการเบียดเบียนกันและกัน อันเป็นเสี้ยนหนามแห่งแผ่นดิน กล่าวคือเป็นอุปสรรคแห่ง ชนจำพวกใดขวนขวายในการทำนาและเลี้ยงโคพระราชทานพันธุ์ข้าวปลูกแก่ชนจำพวก สหกรณ์ นั้น ชนจำพวกใดขวนขวายในการต่าง ๆ พระราชทานต้นทุนแก่ชนจำพวกนั้นเป็นการเพิ่มกำลัง ชนจำพวกใดทำราชการ พระราชทานเบี้ยเลี้ยงเบี้ยหวัดแก่ชนจำพวกนั้น ชนเหล่านั้นต่างขวนขวาย ในการงานของตน ๆ ย่อมไม่ประทุษร้ายกันท้องพระคลังก็เพิ่มพูนด้วยพระราชทรัพย์ที่เป็นราช พลี พระราชอาณาเขตเกษมสุขสวัสดีสิ้นเสี้ยนหนาม หาความเบียดเบียนกันมิได้ ประชาราษฎร์ ต่างชื่นบานด้วยความวางใจยังบุตรให้ฟ้อนอยู่ที่อก อยู่ราวกับมีประตูเรือนไม่ต้องลงลิ่มสลัก บุคคลหรือคณะผู้นับเนื่องในสหกรณ์ ถ้าปลีกตนเสียไม่ทำงานพรักพร้อมกับเขา ย่อมเป็นเช่นส่วน อวัยวะแห่งสรีระอันหยุด ไม่ทำหน้าที่หรือทำบกพร่อง จัดว่าเป็นโรคเกิดขึ้นในสหกรณ์นั้น เช่นเดียวกับโรคเกิดขึ้นนารีระ ย่อมทอนกำลังหรือนำไปถึงความพินาศ ฯ ในฝ่ายคดีธรรม สหกรณ์เป็นกิจอันจำต้องปรารถนาดุจเดียวกัน ฯ การประพฤติสุจริต หากไม่ครบไตรทวาร ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์ เพราะถึงหากกายจะพยายามฝืนทำ ។
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More