ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
๘๓
เป็นผู้มีตนเสมอ ไม่แสดงความแปรผันในการนั้น ๆ อวิสวาทนตาย ด้วยความซื่อตรง ไม่ล่อลวง
กัน ดูก่อนคฤหบดีบุตร มิตรอมาตย์ผู้เปรียบด้วยทิศเบื้องซ้ายอันกุลบุตรบำรุงด้วยฐานะทั้ง ๕
เหล่านี้แล้ว ปญฺจติ ฐาเนหิ กุลปุตต์ อนุกมฺปนฺติ ย่อมอนุเคราะห์กุลบุตรด้วยฐานะ ๕
ประการ คือ ปมตต์ รกฺขติ กุลบุตรนั้นเลินเล่อเผลอสติ ย่อมเอาใจใส่ระวังรักษาเขา
ปมตฺตสฺส สาปเตยย์ รกฺขติ ย่อมป้องกันรักษาทรัพย์สมบัติของเขา กีตสฺส ปฏิสรณ์ โหติ เมื่อ
มีทุกข์ร้อยย่อมเป็นที่พึ่ง อาปทาสุ น วิชาติ ย่อมไม่ละทั้งในยามวิบัติ อปร์ ปชปิสฺส ปฏิ
ปูเชติ ย่อมนับถือตอบตลอวงศ์วานของเรา สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าประทานโอวาทไว้ให้
เข้าใจอุบายสงเคราะห์มิตร ด้วยประการฉะนี้ ความเป็นผู้มีพวกพ้อง เป็นผลที่ควรจะต้อง
ประสงค์ประการหนึ่ง ในส่วนทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ถ้าหาพวกพ้องมิได้แล้วก็ไม่สามารถจะทรง
ตนอยู่ได้ เหมือนต้นไม้ไร้รากกิ่งทนพายุไม่ได้ก็จะล้มฉะนั้น เพราะฉะนั้น สมเด็จพระสุคตเมื่อ
ตรัสสอนด้วยทิฏฐธัมมกัตถประโยชน์ จึงทรงแสดงหน้าที่ของพระอริยสาวกผู้ครองฆราวาส เนื่อง
ด้วยการสงเคราะห์มิตรไว้เป็นประการหนึ่ง ถึงจะเปลืองโภคทรัพย์ที่จับจ่ายไปในกิจนี้ ก็จัดว่า
จ่าวยไปด้วยดี ชื่อว่าได้ถือประโยชน์อันเกิดแต่โภคทรัพย์ไว้ได้ แต่มิตรนั้นต่างชั้นกันตามบุคคล
วิธีสงเคราะห์ก็จำต้องต่างไปตาม คนเดียวกันความต้องการก็ยังต่างไปตามขณะ การสงเคราะห์
ใหญ่
มิตรจึงควรจะทำด้วยรู้จักเลือกอุบายให้เหมาะแก่บุคคลและสมัย ถ้าเข้าใจทำก็จะได้พวกพ้องเป็น
กำลังในกิจธุระ, นี้เป็นปริวารยศ ปริวารสัมปทา, หัตถกาฬวกอุบาสกเป็นตัวอย่างสาธกความให้
กระจ่าง, ครั้งหนึ่ง ในเวลา เมื่อสมเด็จพระผู้มีพระพระภาคเจ้าเสด็จอยู่เมืองอาฬวี หัตถกอุบาสก
ไปสู่ที่เฝ้ามีพวกอุบาสกตามไปด้วยเป็นอันมากพระองค์ตรัสถามว่า หัตถกะบริวารของท่านเป็นหมู่
ท่านสงเคราะห์ยึดเหนี่ยวน้ำใจของเขาไว้ได้ด้วยอย่างไร
หัตถกอุบาสกกราบทูลว่า
พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ย่อมสงเคราะห์บริษัทหมู่นี้ด้วยสังคหวัตถุ ๔ ประการ ซึ่งพระองค์ตรัส
ประทานเป็นอนุศาสน์ไว้ ข้าพระองค์เห็นว่า ผู้ใดควรได้รับสงเคราะห์ด้วยอาการเช่นใด ก็
สงเคราะห์ผู้นั้นด้วยอาการเช่นนั้น ข้าพระองค์ย่อมสงเคราะห์เขาด้วยการให้พัสดุเกื้อกูลบ้าง ด้วย
ถ้อยคำพูดเอาใจบ้าง ด้วยประพฤติประโยชน์แก่เขาบ้าง ด้วยประพฤติสม่ำเสมอในทางผูกไมตรี
บ้าง, สมเด็จพระนราสภทรงสาธุการว่า ทำอย่างนั้นชอบแล้ว ถูกแล้ว ตรัสสรรเสริญว่า หัตถ
กะ ท่าน เกิดมาเพื่อสงเคราะห์บริษัทหมู่ใหญ่แท้ ๆ ในอดีตกาลบุคคลใด ได้ควบคุมบริษัทไว้ได้
มาก บุคคลนั้นได้ทำสำเร็จแล้วด้วยสังคหวัตถุ ๔ ประการนี้แล แม้ในอนาคตกาล