ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
๔๔
พระคุณข้อนี้แล ชักนำให้พระองค์ตั้งอยู่ในยุติธรรม ไม่ลำเอียงในฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และรำพึงถึง
สุขทุกข์ของประชาชน ที่สุดจนทรงจำแลงเพศอัญญาตกบุรุษ ไม่ให้ใครรู้จักพระองค์ เสด็จเที่ยว
สอดส่องเอง ได้ทราบข่าวดี และข่าวร้ายประจักษ์แจ้ง มีเรื่องแสดงไว้ในคัมภีร์อรรถกถาบาง
คัมภีร์ บ้างก็มีในเวลาที่ข้าศึกมาประชิดพระนคร ต้องเสด็จนำพยุหแสนยากรออกต่อยุทธ์
เพื่อป้องกันภัยมีให้มีมาถึงข้าขอบขัณฑสีมาก็มีโดยชุมชุม สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินมีพระกรุณา
จึงเป็นที่นับถือลบล้น ควรได้รับอภัยและรับ ความยกย่องไว้ในที่สูง
จัดว่าเป็นสมมติเทวราช เป็นผู้ควรแก่ส่วน
กว้างขวางมาฉะนี้
ปรากฏ แก่ชนทั้งหลายราวกับเทวดาในหมู่มนุษย์
กุศลที่มหาชนบำเพ็ญ แล้วและจะพึงอุทิศถวาย ด้วยความหวังเพื่อทรงเจริญภัยโยภาพสืบไป ใน
ฝ่ายศาสนจักร สมเด็จพระพุทธเจ้าได้เป็นสรณะที่พำนักนับถือพุทธศาสนิกบริษัท จำเดิมแต่ครั้ง
ยังดำรงพระชนม์จนบัดนี้ ก็เพราะพระมหากรุณา พระคุณข้อนี้ เป็นเหตุให้พระองค์บำเพ็ญพระ
บารมีมาแต่ครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ จัดเป็นมหากรุณาสมาโยคในฝ่ายเหตุสัมปทา ให้บรรลุพระ
อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นผลสมบัติ จำเดิมแต่ตรัสรู้แล้วก็คงอยู่ในพระกรุณาคุณ เสด็จ
เที่ยวเทศนาโปรดเวไนยนิกร ในนครคามนิคมชนบทนั้น ๆ ให้ได้บรรลุโลกิยสมบัติ และโลกุตต
รสมบัติตามอุปนิสัย ตราบเท่าถึงอวสาน ที่สุดทรงพระอาพาธหนัก จะเด็จดับขยะปรินิพพานในคืน
นั้นแล้ว ยังทรงเทศนาโปรดสุภัททปริพาชก ให้สำเร็จพระอรหัตต์เป็นปัจฉิมสาวก ข้อความที่
นำมาสาธกนี้ แสดงให้เห็นพระกรุณาของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อันเป็นไปในสัตว์โลกสัก
เพียรไดร
เพราะเหตุนี้ พระองค์จึงได้เป็นอุดมสรณะที่ระลึกนับถืออันสูงสุดของพุทธศาสนิก
ประชา ตลอดมาจนทุกวันนี้ ในการตั้งวจีสัตยาธิษฐาน ก็ยกพระคุณข้อนี้เป็นสำคัญ จึงเห็นในพ
จนประพันธ์ที่ใช้สวดในมงคลกิริยาว่า
ความว่า
มหาการุณิโก นาโถ
ปูเรตวา ปารมี สพฺพา
เอเตน สจฺจว เซน
อตฺถาย หิตาย สุขาย สพฺพปาณิน
ปตฺโต สมฺโพธิมุตฺตม์
มา โหนตุ สพฺพุปทุทวา
สมเด็จพระโลกนาถประกอบด้วยพระมหากรุณา ทรงบำเพ็ญพระบารมีทั้งปวง เพื่อ
ประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุข แห่งสัตว์ทั้งปวง ได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณอันอุดมแล้ว
ด้วยสัจจวาจานี้ ขออุปัททวะทั้งปวง จงอย่ามีเลย ดังนี้