ข้อความต้นฉบับในหน้า
๓๓๖
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร)
เฝ้ากราบทูลถามเหตุกะพระบรมศาสดาพระองค์ทรงตั้งอยู่ในความเป็นกลาง ตรัสไกล่เกลี่ยว่า ที่
เป็นเช่นนั้นเพราะภิกษุทั้งหลายยังไม่ได้ความคุ้นเคยสนิทสนมในพระราชสำนักข้อนี้ เป็นมูลให้
พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงขอนางวาสภขัตติยา ซึ่งนับเนื่องในพระญาติเกี่ยวดองกับพระบรมศาสดา
มาเป็นพระมเหสีในภายหลัง เพื่อให้ปรากฏว่าเป็นพระญาติเกี่ยวดองกับพระบรมศาสดาเป็น
อุบายปลูกความสนิทสนมในภิกษุทั้งหลายขึ้นได้ ด้วยประการฉะนี้ จึงจะดีไม่มีโทษคือท่านเป็นผู้
อันพระองค์ไว้วางพระหฤทัย มอบภาระอันนี้ให้แล้ว ท่านต้องพยายามเป็นภาระอันนั้นให้ตลอดไป
ด้วยดี อย่าให้เสียทีที่ทรงไว้วางพระหฤทัย ถ้าไม่เช่นนั้นตนก็จะได้รับโทษเสียหาย ทั้งจะเป็นข้อ
ระคายกระเทือนถึงพระบาทยุคลอีกด้วย อนึ่ง การที่พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จออกช้าแลต้องยืน
นี่ก็เหตุหนึ่ง แต่ว่าอำนาจแห่งข้อเหตุนี้ ยังไม่พอที่จะให้กลับเสียได้โดยปราศจากทาง
คอย
เสียหายเพราะว่าแม้เสด็จออกช้า ก็ยังไม่ล่าจนถึงล่วงเลยโภชนกาล แลแม้ต้องยืนคอยนานก็ยังไม่
เนิ่นจนเกินกว่าที่จะทนได้ อนึ่ง การรักษาศรัทธาปสาทะอันเป็นมูลแห่งกุศลสมบัติของทายก
ย่อมเป็นหน้าที่ของปฏิคาหกทั้งหลายความเหนื่อยยากลำบากกายเมื่อเทียบกับความเสียหาย อัน
จะเกิดเพราะความทำไม่สมควรนั้นแล้ว ก็เป็นการมีประมาณน้อย พระอานนทเถรเจ้าชะรอยจะ
พิจารณาเห็นอำนาจแห่งเหตุดังนี้ จึงหาได้หลีกหลับไปตามอำเภอใจตนเป็นอัตตาธิปไตย
พลอยไปตามหมู่มากเป็นโลกธิปไตยเหมือนเช่นภิกษุบริวารทั้งหลายเหล่านั้น
แล
ท่านตั้งมั่นอยู่ใน
ความสมควรเป็นธัมมาธิปตย ประพฤติเป็นไปในอำนาจแห่งเหตุจนตลอด รักษาตนให้ปลอดไป
จากความเสียหาย ป้องกันข้อระคายมิให้ข้องถึงพระบรมศาสดา ทั้งประทั้งพระประสาทะ
ศรัทธาของพระเจ้าปเสนทิโกศลไว้ได้ด้วย, ปฏิปทาของพระอานนท์นี้ ควรเป็นเยี่ยงอย่างอันดีแก่
เสวกามาตย์ราชภัฏผู้ได้รับมอบพระราชภาระให้ปฏิบัติต่างพระเนตรพระกรรณ จะพึงนำพระราช
ภาระนั้น ๆ ไปด้วยความเป็นผู้ตั้งอยู่ในการณวสิกตารักษาตนให้สวัสดี ไม่ประพฤติให้เป็นที่ราศี
ขุ่นเคืองถึงเบื้องพระบาท รักษาผลประโยชน์ของหลวงแลประชาราษฎร์ มิให้เสื่อมเสียทั้งสอง
สถาน ชื่อว่าเป็นปริวารรัตนะหาได้ยาก
ในการรับคนเข้าทำเป็นบรรพชิตบริษัท กล่าวคือรับกุลบุตรผู้มีศรัทธาปรารถนาจะบวช
ให้ได้บรรพชาอุปสมบท
เอหิภิกขุอุปสัมปทา
ครั้งแรกสมเด็จพระสุคตก็ทรงรับด้วยพระองค์เองด้วยวิธี
ครั้นต่อมามีพระสาวกตรัสรู้เสด็จขึ้นหลายรูปพอเป็นกำลังในการแพร่พระ
ศาสนาได้ จึงทรงส่งท่านเหล่านั้นให้แยกย้ายกันไปประกาศพระศาสนา