ข้อความต้นฉบับในหน้า
๓๓๘
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร)
มาเป็นเหตุทรงประพฤติตามอำเภอพระหฤทัย ให้นอกเหนือความสมควรไปทรงเคารพนับถือเชื่อ
ฟังพระราชวงศ์แลเสวกามาตย์ผู้ใหญ่ตามฐานะเป็นอย่างดี มีพระราชกมลกอปรด้วยพระกตัญญู
กตเวที
ไมตรีจิตมิตรธรรมบริวารสงเคราะห์ทรงตั้งต้นประกอบราชกิจที่เหมาะแก่กาลเทศะเป็นชิ้น
เป็นอัน พระราชกำหนดแลลัทธิธรรมเนียมแบบแผนของเก่านั้น ๆ อันยังไม่ล่วงสมัยแลที่ยังมิได้
พิสูจน์สถานไรก็ทรงสำเหนียกแลอนุวัตน์ไปไม่ทรงลบล้าง ส่วนที่ล่วงสมัย แลที่พิสูจน์ว่า ไม่เป็น
สาระแล้ว ก็ทรงเลิกถอนแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปตามรูปการ เมื่อได้เหตุเป็นหลักฐานพอเพียง ก็
โปรดให้บัญญัติเพิ่มเติม เพื่อตัดเหตุหายนะบ้าง สนับสนุนเหตุแห่งวัฒนะบ้าง ทรงรับรู้เห็นสุข
ทุกข์ของไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน พระราชทานความคุ้มเกรงแก่พระราชวงศ์ เมื่อเหตุการณ์อันสมควร
เกิดขึ้นเป็นโอกาส ก็ทรงสละพระราชอำนาจส่วนพระองค์ ทรงมุ่งความสุขความเจริญแล ความ
เป็นปึกแผ่นแน่นหนาของสยามประชาชน ตลอดพระราชอาณาจักรเป็นใหญ่ ไม่ทรงเสียดายอาลัย
พระประโยชน์สุขส่วงพระองค์ ทรงนิคคหะผู้กระทำผิด ปัคคหะผู้ทำชอบ ตามระบอบของการนว
สิกชนเจริญรอยพระพุทธจรรยา ตัดทางมาแห่งปรัปปวาทเสียดี ควรสรุปเข้าในบาลีพระพุทธ
นิพนธ์ว่า
อจฉัททวุตต์ เมธาวี
นิกข์ ชมโพนทสุเสว
ปญฺญาสีลสมาหินํ
โก ต์ นินทิตมารห
บุคคลผู้เป็นปราชญ์ มีความประพฤติหาช่องที่จะต้องตำหนิมิได้ ตั้งอยู่ในปัญญาคือความฉลาด
รู้เท่าเหตุผล แลศีลคือความประพฤติตนตามระเบียบของหมู่คณะ ใครน่าจะติบุคคลนั้นซึ่งบริสุทธิ์
ดุจทองชมพูนุททั้งแท่ง
เทวาปิ น ปสนฺติ
។
พฺรหฺมุนาปิ ปสํสิโต
แม้เทวดาก็ย่อมชม ถึงพรหมก็สรรเสริญบุคคลนั้น ด้วยประการฉะนี้ ควรที่แม้อำมาตย์ราชเสวี
จะพึงสำเหนียกการณวสิกกาตาราชบารมี ธรรมนี้แล้วอนุวัตน์ตามเสด็จ ให้สำเร็จหิตานุหิ
ประโยชน์ตามฐานานุรูปแลโอกาสสมัย, พระคุณคือการณวสิกตามีนัยดังรับพระราชทานพรรณนา
มาโดยเอกเทศ จัดเป็นมงคลวิเศษประการที่ต้น อันจะให้สำเร็จผลในทางรัฏฐาภิบาลโนบาย ซึ่ง
จะรับพระราชทานถวายวิสัชนาต่อไป
รัฏฐาภิบาลโนบาย จะถวายวิสัชนาโดยสังเขป ในที่นี้จักยกกสิกรรมขึ้นถวายวิสัชนา พอ
เป็นอุทาหรณ์, ชาวประเทศเขตตะวันออก บริโภคธัญชาติเป็นอาหารการทำนา