ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรม
สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
๑๗๒
ส่วนในพระรัตนตรัย รัตนะ ๓ คือพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระธรรม
หมายถึงมรรค ผล นิพพาน และปริยัติ ย่อลงเป็น ๓ คือ ปริยัติธรรม ปฏิเวธธรรม ปริยัติ
คือธรรมที่พึ่งเรียน ได้แก่คำสั่งของพระพุทธเจ้าพระพุทธสาวกเป็นธรรมที่พึงเรียน คือ
ตั้งใจ ฟัง อ่าน จำ ทรงเพ่งด้วยใจคือพินิจพิจารณา ขบเจาะด้วยทิฐิ คือความเห็นได้แก่ ทำ
ความเข้าใจให้ถูกต้อง ปฏิบัติธรรมธรรมที่พึงปฏิบัติ คือ เมื่อเรียนรู้แล้ว ก็นำมาปฏิบัติที่กาย
วาจาใจ กล่าวโดยย่อคือละชั่ว ทำดี ทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว ปฏิเวธธรรม ธรรมที่รู้แจ้งแทง
ตลอด เป็นผลการปฏิบัติ จึงได้แก่ผลของการปฏิบัติ ตั้งแต่เบื้องต้น ยกตนให้พ้นจากโลกที่เป็น
ส่วนชั่ว ขึ้นสู่โลกที่เป็นส่วนดีโดยลำดับ จนถึงสุดโลก พ้นโลก เป็นมรรคผลนิพพาน เพราะเมื่อ
ปฏิบัติไปก็ย่อมได้รับผลดังกล่าวไป จึงรู้ในผลที่ได้ด้วยโดยลำดับ โดยถนัดชัดแจ้งเพราะ
ปรากฏผลขึ้นที่ตนที่จิตใจของผู้ปฏิบัติเอง
๓
คำว่า ธรรม ที่แสดงโดยมาก หมายถึงธรรมทั้ง นี้โดยสรุป เช่นคำว่า ฟังธรรม
ปฏิบัติธรรมเห็นธรรม และในคำว่า ปฏิบัติธรรมนั้น ก็ต้องหมายถึงปฏิบัติธรรมที่เป็นกุศลส่วนดี
คือละชั่วทำดี ฉะนั้น เมื่อพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน เพื่อให้ปฏิบัติธรรมประพฤติธรรมแก่บุคคลทั้ง
ปวงในที่ทั้งปวง จึงตรัสคำว่าธรรมหมายถึง ส่วนที่ดีคือคุณงามความดี และตรัสคำว่าอธรรม ใน
ความหมายตรงตรงกันข้าม คือส่วนที่ชั่วดังพระพุทธภาษิตที่ตรัสไว้ว่า
น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ
อธมฺโม นิรย์ เนติ
อุโภ สมวิปากิโน
ธมฺโม ปาเปติ สุคติ
។
ธรรมและอธรรมทั้งสอง หามีวิบากคือผลเสมอกันไม่ อธรรมย่อมนำไปสู่นิรยะ ที่ไร้
ความเจริญ ธรรมย่อมให้ถึงสุคติ คติที่ไปที่บรรลุถึงที่ดี
ธมฺโม ทเว รกฺขติ ธมฺมจารี
ธมฺโม สุจิณโณ สุขมาวหาติ
เอสานิสโส ธมฺโม สุจิณโณ
น ทุคคติ คจฉติ ธมฺมจารี
ธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
ธรรมที่ประพฤติแล้วนำสุขมาให้
นี้เป็นอานิสงส์ผลดีในธรรมที่ประพฤติดีแล้ว
ผู้ประพฤติธรรมย่อมไม่ไปสู่ทุคติ คติที่ชั่ว
។