ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า
๔๕
ทรงพระมหากรุณาแก่ประชาราษฎร์ผู้พึ่งพระบรม
โพธิสมภาร ตั้งพระราชหฤทัยสอดส่องในสุขทุกข์อยู่เป็นนิตยนิรันดร์ ทรงออกพระราชบัญญัติแก้ไข
เลิกถอนขนบธรรมเนียมเป็นที่เป็นไปเพื่อความลำบาก ปลดให้เบาขึ้นเป็นหลายประการเช่น เลิก
ใช้จารีตนครบาลในการพิจารณาความอาษาหลวงเสีย งดลงพระราชอาณาเฆี่ยนนักโทษที่จะขึ้นคุก
ลดหย่อนเครื่องพันธนาการ ผ่อนโทษและยกทาพระราชทานบ้างก็มี เลิกทาสด้วยวิธีปลดคนเกิด
ในแผ่นดินปัจจุบันให้เป็นไท เมื่ออายุครบกำหนด กิจการที่ปรากฏพระมหากรุณาก็ยังมีอีกหลาย
สถาน เป็นต้นว่า ตั้งโรงพยาบาลและจัดอารักขา พรรณนาในที่นี้พอเป็นเลา พระราชจริยานี้นับเข้า
ในพระคุณ คือ การุญญภาพมงคลวิเสสที่ 1
๒.
พระราชจริยารัฏฐาภิบาลโนบายนั้น คือราชกรณียกิจที่ทรงจัดขึ้นด้วยพระบรมเดชานุภาพ
เพื่อเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่พระราชอาณาจักรกับทั้งปวงประชาชนข้าขอบขัณฑสีมา การในขวบ
หลังตั้งแต่กันยายน ศก ๑๒๒ ถึง สิงหาคม ศก ๑๒๓ นี้ ที่ควรยกขึ้นพรรณนา
ฝ่ายพุทธจักร ทรงโปรดเกล้า ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ
มกุฎราชกุมาร ทรงอุปสมบทเป็น พระภิกษุ มีสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช
กรมขุนสงขลานครินทร์ ทรงบรรพชาเป็นสามเณร เป็นหางนาค, ข้อนี้หากจะเพ่งส่วน
พระองค์ ก็คงเป็นแต่บุตรสงเคราะห์ นับเข้าในสถานว่า กลยาเณ นิเวเสนฺติ คือให้ตั้งอยู่ใน
ความดีความงามเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์สำคัญยิ่งขึ้นไปกว่า ได้ชื่อว่าโยงอาณาจักรกับพุทธ
จักรให้ใกล้กันเข้า สมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ทรงบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยบำเพ็ญมหาทาน สร้าง
เจดีย์วิหารเป็นอาทิ และอุปัฏฐากภิกษุสงฆ์ ให้ฟุ่มเฟือยด้วยปัจจัยลาภสักเพียงไร ก็ไม่เหมือน
โปรดให้พระราชโอรสทรงผนวช ในพระพุทธศาสนาข้อหลังพาให้รู้สึกสนิทในใจ ชะรอยจะอาศัย
เหตุซึ่งกล่าวแล้ว พระเถรานุเถระในปางก่อน ท่านจึงถวายพระพรทูลตอบพระราชปุจฉาของพระ
เจ้าอโศกมหาราชแสดงว่าพระองค์ทรงบำเพ็ญมหาบริจาคในพระศาสนา สร้างพระสถูปและอาวาส
ดาษดื่นไป ในพระราชอาณาจักร มีประมาณได้ถึง ๘๔, ๐๐๐ เท่าพระธรรมขันธ์ ถึงดั่งนั้น
ก็ยังไม่จัดว่าเป็นญาติกับศาสนา ต่อเมื่อมีพระราชโอรสบรรพชาแล้ว จึงจะจัดว่าเป็นอย่างนั้นได้
พระองค์จึงโปรดให้พระมหินทกุมารราชโอรส อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พระสังฆมิตตากุมารี
ราชธิดาผนวชเป็นภิกษุณี ทั้ง ๒ พระองค์ได้นำศาสนาไปประดิษฐาน ณ ลังหาทวีปเป็น