ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
๘๕
เป็นผู้ประเสริฐสุดแห่งหมู่ชนผู้เป็นญาติด้วย สามารถเชิดชูให้มีเกียรติ, พระคุณข้อนี้จัดเป็นมิตร
สมบัติให้เกิดสิริสวัสดิ์วิบุลผล ได้ชื่อว่า เป็นมงคลวิเสสที่แรก
มัตตัญญุตานั้นได้แก่ ความเป็นผู้รู้จักประมาณ คือรู้จักความพอดี มัตตัญญุตานี้มีทางที่
เป็นไปจะพึงพรรณนาได้หลายประการ เป็นต้นว่า ความรู้จักประมาณในโภคทรัพย์ ในกิจการ ใน
บริหารอัตภาพ ในบุคคล และในธรรม เมื่อรวมกล่าว ความประกอบทุกอย่างอันความรู้จัก
ประมาณเข้ากำกับอยู่ด้วยจึงจะสำเร็จด้วยดี แต่ในที่นี้จะรับพระราชทานวิสัชนาเฉพาะประการ
ต้นพอเป็นตัวอย่าง ความรู้จักประมาณในโภคทรัพย์ต่างโดยกิจเป็น ๓ สถาน คือการแสวงหา
การรักษา การบริโภค ใช้สอย อันโภคทรัพย์นี้ที่บุคลต้องประสงค์ก็เพื่อจะได้เป็นอุปการะแก่สุข
ชนผู้มั่งมีย่อมได้ความเอิบอิ่มใจว่า ทรัพย์ของตนมีอยู่ในเบื้องต้น เมื่อได้ใช้จ่ายทรัพย์เลี้ยงตน
และบำรุงคนที่ควรเลี้ยงย่อมได้ความสำราญกายสบายใจ เมื่อแลเห็นตนเป็นไท ไม่ติดขัด
จะดำริอะไรก็โล่งไม่สะดุด เมื่อได้อาศัย
โภคะเป็นกำลังอุดหนุนให้เป็นอยู่ โดยชอบ ไม่ต้องประกอบการอันเป็นส่วนทุจริต ย่อมได้เสวย
ผลแห่งชีวิตล้วนแต่เป็นที่เจริญใจแต่ทรัพย์ที่หาได้ในทางผิด หาได้สำเร็จกิจเหล่านี้ไม่ เพราะฉะนั้น
การแสวงหาจึงควร ให้เป็นไปในทางชอบ ความแสวงหาทรัพย์ในทางลบล้างกรรมสิทธิ์ ใน
เป็นเหตุเป็นหนี้สินท่านผู้อื่น ย่อมมีใจปลอดโปร่ง
โภคทรัพย์ของผู้อื่นที่ทำการลักก็ดี ด้วยล่อลวงก็ดี ด้วยชิงก็ดี ด้วยอาการอื่น
ๆ อีกก็ดี
เช่นนี้
ชื่อว่า การแสวงหาไม่สมควร บัณฑิตมีพระพุทธเจ้าเป็นอาทิ ติเตียนว่าเป็นการงาน เป็นไปกับ
ด้วยโทษ ไม่ยังประโยชน์ให้เกิดแก่บุคคลผู้ประกอบ, ความแสวงหาเว้นจากอาการ เช่นนั้นเป็นไป
ด้วยความหมั่น ออกกำลังกายกำลังความคิดหรือกำลังทรัพย์ของตน บันถือกรรมสิทธิ์ของชนอื่นใน
โภคทรัพย์ของเขา ช่นนี้ชื่อว่า สุปริเยนา แสวงหารอบคอบดี อีกอย่างหนึ่งเรียกว่า อุฏฐานสัมปทา
ถึงพร้อมแห่งความหมั่น นักปราชญ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน สรรเสริญว่า เป็นการงานไม่มีโทษ
ยังประโยชน์ให้สำเร็จแก่บุคคลผู้ประกอบ, และการงานบางอย่าง ย่อมเหมาะแก่บุคคลบางคน ใน
ประเทศบางตำบล ในกาลบางยุค ผู้ประกอบต้องรู้จักประมาณ คือความพอดีจึงจะเป็นปฏิรูปการ
คือผู้ทำเหมาะเจาะ การงานที่ประกอบนั้นจึงจะสำเร็จผลไพบูลย์ และโภคทรัพย์ ที่บุคคลสั่งสมขึ้น
ได้ด้วยอาการเช่นนั้นแล้ว ต้องถึงพร้อมด้วยกำลังแห่งการรักษาจึงจะถาวรอยู่ได้ มีเงินแต่ไม่มีอุบาย
จะรักษา เงินนั้นก็ย่อมจะมีอันตรายไม่คงอยู่ มีเคหสถานแต่ไม่มีกำลังจะรักษา เรือนนั้นก็จะชำรุด
ทรุดโทรมลง มีที่นามากแต่ทำไม่หมดหรือมีผู้เช่า