ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
(เจริญญาณวรเถร)
๒๖๖
อันมหาชนผู้ตั้งเป็นชุมชนในแผ่นดินอันหนึ่ง ๆ ซึ่งเรียกว่าโดยอุปจารโวหารว่าบ้านเมืองหรือ
ประเทศ จำต้องปรารถนาในหน้าที่กันทำ เพื่อบำรุงรักษาชุมชนนั้นให้มั่งคนแข็งแรง แม้ในจักร
วัติสูตรท่านก็แสดงว่า พระเจ้าจักรพรรดิราชมีจาตุรงคินีเสนากองทัพ ๔ เหล่า คือ พลช้าง
พลม้า พลรถ แลพลเดินเท้า สำหรับระกอบกับจักรรัตนะ ประดับพระเดชานุภาพ ทรงจัดธรรม
การักขาวรณคุตติ คือการปกคองด้วยรักษาป้องกันอันเป็นไปโดยราชธรรม ในประชาชนผู้พึงพระ
บารมีทั่วไปทุกหมู่ ตลอดถึงดิรจฉานบางเหล่าที่ควรบำรุงไว้ แม้พระเจ้าแผ่นดินเฉพาะประเทศ
อันหนึ่ง ๆ ต่างก็ต้องมีกำลังไว้พร้อมพรั่งดังพระเจ้ากาสีในทีฆาวุชาดกปกรณ์ ถึงพระเจ้าแผ่นดิน
ในครั้งก่อนคราวพุทธกาล เช่นพระเจ้าพิมพิสารมคธราช แมทรงนับถือพระพุทธศาสนามั่นคง
ในฝ่ายราชกิจก็ยังทรงเป็นพระราชธุระโดยราชธรรม ดังมีแจ้งในคัมภีร์มหาวรรค พระวินัย ตอบ
บรรพชาขันธ์ว่า คราวหนึ่งปัจจันตชนบท ปลายพระราชอาณาเขตแคว้นมคธ เกิดการขบถจลาจล
กำเริบขึ้น ต้องทรงจัดกกองทัพส่งไประงับ พวกโยธีผู้ถูกเกณฑ์ไม่สมัครไป พากันหลบหนีเข้าบวช
ในสำนักพระภิกษุทั้งหลายเป็นอันมาก ความทราบถึงพระเจ้าพิมพิสาร ตรัสถามเหล่าโวหาริกอ
มาตย์ถึงโทษผู้รับบวชคนหลวงเช่นนี้ อมาตย์ผู้วินิจฉัยคดีเหล่านั้นวางบทถึงประหารชีวิต พระองค์
ทรงยกความข้อนี้ขึ้นเป็นเหตุกราบทูลสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อทรงห้ามไม่ให้ภิกษุทั้งหลาย
รับบวชราชภัฏบุรุษข้าราชการ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อทรงห้ามไม่ให้ภิกษุทั้งหลายรับบวช
ราชภัฏบุรุษข้าราชการ สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ก็ทรงอนุมัติ แลทรงตั้งพระพุทธบัญญัติห้าม
โดยความเป็นทุกกฏาบัติแก่ภิกษุผู้ละเมิด พระเจ้าพิมพิสารทูลขอดังนี้ ก็ด้วยปพระปรีชาส่วนอุบาย
ทรงผ่อนผดพระราชทานพระราชานุญาติ ให้พ้นจากความเป็นราชภัฏแก่ราชบริษัท
โกศล
เสวกามาตย์ ผู้ศรัทธาจะบวชในพระศาสนา เป็นพระราชประเพณีสืบมา
อันหน้าที่รักษาความสงบนี้ ย่อมเป็นที่นิยมนับถือของพวกขัตติยะ บ้างก็มีสมญาเป็นนิมิต
ประกอบติดต่อกกกันนามเดิม เพิ่มเติมเข้าข้างหลัง หรือข้างหน้า เช่นคำว่า เสนิโย จอมพล เป็น
สร้อยพระนามแห่งพระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งเรียกโดยววิสามัญโวหารรวมกันว่า ราชา มาคโธ เสนีโย
พิมพิสาโร ดังนี้ แลคำว่า เสนาปติ นายพล เป็นสร้อยนามของเจ้าสีหกุมาร ในพระนครไพศา
ลี ซึ่งเรียกรวมกันว่า สีโห เสนาปติ ดังนี้ แลความสงบนั้น ย่อมเป็นปัจจัยแห่งกันแลกัน เมื่อ
ความสงบภายนอกมีขึ้นก่อนแล้ว ความสงบภายในจึงเป็นไปตาม เมื่อชุมนุมชนปราศจากความ
ระส่ำระสาย ไม่ต้องหวาดหวั่นต่อภยันตรายอันจะพึงมีมาแล้ว ชนจำพวกนั้น ๆ จะได้ตั้งหน้าทำ
มาหากิน แลประกอบกิจการหน้าที่