ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
(เจริญ ญาณวรเถร)
พ. ศ. ๒๔๘๗
๗๗๗
ในปีนี้ (พ.ศ. ๒๔๘๗) ได้เลือกธรรมะมาถวายวิสัชนา ๒ ประการ คือ กัตตุกัมยตา
ฉันทะ ๑ บุคคลัญญุตา ๑ พอเป็นนิทัศนนัย
คาถามีความว่า
กัตตุกัมยตาฉันทะ ความพอใจคือความเป็นผู้ใคร่จะทำนั้น ศัพท์ว่า ฉันทะ เป็นคำกลาง
เป็นได้ทั้งข้างดี ทั้งข้างเสีย เช่นฉันทะในคำว่า กามฉันทะ ฉันทะในการ ดังนี้ ประสงค์กาม
ฉันทะในพวกนิวรณ์ที่กั้นสมาธิแลปัญญามิให้เกิดขึ้นฉันทะในคำว่า น ตมุห์ ฉันท์ กยิราถ ใน
ถ้าคนทำบาปเข้าบ้าง อย่าพึงทำบาปนั้นร่ำไป อย่าพึงทำฉันทะในบาปนั้น
เพราะว่าบาปเจริญขึ้น ย่อมให้เกิดทุกข์ ดังนี้ ประสงค์อกุศลฉันทะ ฉันทะในอกุศล เช่นนี้
จัดเป็นข้างเสีย ฉันทะใน คำว่า ตมหิ ฉันท์ กยิราถ ในคาถามีความว่า ถ้าคนทำบุญเข้าบ้าง
พึงทำบุญนั้นร่ำไป จึงทำฉันทะในบุญนั้น เพราะว่า บุญเจริญขึ้น ย่อมให้เกิดสุข ดังนี้ ประสงค์
กุศลฉันทะ ฉันทะในกุศล เช่นนี้ จัดเป็นข้างดี ฉันทะในคำว่า ธมฺมนิชฌานกฺขนฺติยา สติ
ฉนฺโท ชายติ ความว่า เมื่อความทนต่อความเพ่งโดยธรรมปรากฏ ฉันทะ ย่อมเกิด ฉนฺทชาโต
อุสสหติ บุคคลมีฉันทะ เกิดแล้วย่อมอุตสาหะ ดังนี้ ประสงค์กัตตุกัมยะตาฉันทะ แม้ฉันทะที่
เป็นอิทธิบาท คือธรรม เป็นเครื่องบรรลุความสำเร็จ ก็ประสงค์กัตตุกัมยะตาฉันทะ นี่เอง เช่นนี้
จัดเป็นข้างด ด้วยประการฉะนี้
กัตตุกัมยตาฉันทะ ความพอใจคือความเป็นผู้ใคร่จะทำนั้น เป็นคุณธรรมพยุงความเพียรมิ
ให้ถอย พระโบราณาจารย์ผู้รจนาชาดกปกรณ์ กล่าวเรื่องพระมหาชนกตกอยู่
ในมหาสมุทร
พยายามวายเพื่อจะเข้าถึงฝั่ง นางมณีเมขลามาช่วยให้รอดดังนี้นั้น ก็เพื่อจะแสดงโดยบุคคลาธิษ
ฐาน ซึ่งคุณคือกัตตุกัมยตาฉันทะและวิริยะ คือความเพียร อย่างกล้าหาญ ว่าเป็นเครื่อง
รอดจากอันตรายของบุคคล ฯ หากว่าพระมหาชนกจะหาฉันะมิได้ ไหนเลยจะมีความเพียร
ว่ายอยู่ในมหาสมุทรอันอ้างว้าง จน กว่านางมณีเมลาจะมาช่วย บุคคลผู้มีความหวังก็ยังจะ
พากเพียรอยู่กก่อน ฝ่ายบุคคลผู้สิ้นหวังแล้ว แต่ไม่ทอดทิ้งเพียรเสียก็เพราะกัตตุกัมยตา -