พระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส มงคลวิเสสกถา หน้า 16
หน้าที่ 16 / 390

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส และหลักการปฏิบัติของวุฑฒบุคคลในไทยว่าเป็นการแสดงถึงการเคารพนบนอบพระคุณ โดยการรวมกลุ่มกันในคำสอนที่ส่งเสริมความรักและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข การที่ทุกคนต้องนอบน้อมต่อผู้มีอาวุโสและผู้มีคุณธรรม เพื่อสร้างความเชื่อถือและความก้าวหน้าในสังคม พระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงเจริญพระชนมายุกว่าได้รับการกล่าวถึงในการบริจาคเงินและผ้ารดน้ำ

หัวข้อประเด็น

-วุฑฒบุคคล
-การนอบน้อม
-พระมหาสมณเจ้าฯ
-ธรรมะในสังคมไทย
-อปจายนธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

(สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส) มาตาเปติภร์ ชนต์ สณห์ สขิลสมุภาส มจฺเฉรวินเย ยุตต์ ติ เว เทวา ตาวสา กุเล เชฏฐาปจายน เปสุเฌยฺยปุปหายินํ สจฺจํ โกธาภิ นริ อาหุ สปปุริโส อิติ ฯ ๑๖ เทพเจ้าชั้นดาวดึงส์สวรรค์ ได้กล่าวเรียกยนชนผู้เป็นคนเลี้ยงมารดาบิดา สัมมาคารวะแก่ ผู้ใหญ่ในตระกูล มีวาจาละเอียด เจรจาแต่ถ้อยคำอันจะนำให้เกิดมิตรสันถวะเว้นคำส่อเสียดให้เขา แตกร้าว ประกอบตนในอุบายเครื่องบำบัดมัจฉริยโทษ ตั้งอยู่ในสัตย์ในธรรม ครอบงำความ โกรธเสียได้ ว่าเป็นสัปปบุรุษ ดังนี้ อนึ่ง พระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงเจริญพระชนมายุกว่า และข้า ทูลละอองธุลีพระบาทผู้เจริญพระวยายุกาล สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระราชทาน เงินตรากับผ้ารดน้ำเสมอมา ข้อนี้อนุโลมเข้าในอปจายนธรรม มาในคำประพันธ์ว่า ปฏิบัติ ด เย วุฑฒมปจายนฺติ นรา ธมฺมสฺส โกวิทา ทิฏฺเฐ ธมฺเม จ ปาสา สมุปราโย จ สุคติ ฯ G). ในวุฑฒบุคคล ๓ ความว่า ชนทั้งหลาย เหล่าใด ฉลาดในธรรม ย่อมมาคำนับนบนอบผู้เจริญเป็นอาจิณ ชนเหล่านั้น อันบัณฑิตจะพึงสรรเสริญในปัจจุบันและสัมปรายภพเบื้องหน้า ของชน เหล่านั้น ก็เป็นสุคติดังนี้ ในคาถานี้แสดงวุฑฒบุคคลเป็นสรรพสาธารณะไม่มีจำกัด ควรจัด ประเภทพรรณนาได้เป็น ๓ ประเภทคือ ชาติวุฑโฒ ผู้เจริญโดยชาติ ๑ วยวุฑโฒ ผู้เจริญโดย วัย คุณวุฑโฒ ผู้เจริญโดยคุณ ประเภทนั้น ท่านผู้เจริญโดยชาติที่ มหาชนนับถือว่าเป็นใหญ่ มีกษัตริย์มหาศาลเป็นต้น ชื่อว่า ชาติวุฑโฒ ผู้เจริญโดยชาติ ผู้ใหญ่ โดยกำเนิด ท่านผู้สูงอายุ ชื่อว่า วยวุฑโฒ ผู้เจริญโดยวัยผู้ใหญ่โดยอายุกาลท่านผู้ทรงคุณสมบัติ ความดีในสันดานมาก ชื่อว่า คุณวุฑโฒ ผู้เจริญโดยคุณ ผู้ใหญ่โดยความดี, วุฑฒบุคคล ๓ ประเภทนี้ ควรแก่อปจายนกรรม คือ อภิวาทน์ การกราบไหว้ ปัจจุฏฐาน การลุกขึ้นรับ อาสนทาน การให้อาสนะที่นั่ง มคฺคทาน การหลีกทางให้ สกการครุการมานนปูชา ทำสัก การเคารพนับถือบูชา เมื่อบุคคลมาเคารพนบนอบวุฑฒบุคคลทั้ง นั้น ด้วยอาการมาตรว่าพอ เป็นสามีจิกรรม ก็อาจเปลื้องคำครหา และห้ามกิริยาไม่สุภาพเสียได้ ทำตนให้เป็นคนมีอัธยาศัย อันงาม ได้นามว่า ปริสญญู ผู้รู้จัก (๑) สํ. ส. ๑๕/๓๓๕. (๒) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๑๒ ๓
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More