ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญญาณวรเถร)
( พ.ศ. ๒๔๖๖)
ในศกนี้ (พ. ศ. ๒๔๖๖) ได้เลือกมารับพระราชทานถวายวิสัชนา
อัตตสัมมาปณิธิ ๑ วิริยสมบัติ ๑ รัฏฐาภิบาลโนบาย ๑ พอเป็นนิทัศนนัย
อยู่ในโอฆะ
๓
Q)
ด
๑
๒๖๙
๓
ประการ คือ
อัตตสัมมาปณิธินั้น ได้แก่ความตั้งตนไว้ชอบ อันคนเกิดมาในโลก ก็ชื่อว่า ท่องเที่ยว
คือวัฏฏสงสาร จำต้องประพฤติตนให้เหมาะแก่ภูมิฐานของตน เพื่อจะได้หลีกพ้น
อุปสรรคข้อขัดข้องแลนำชีวิตไปโดยสะดวก ไม่เช่นนี้ ชีวิตก็จะไม่มีสุขเป็นผล เหมือนคนไปเรือ
น้อย จำต้องคอยพยายวาดคัด เพื่อให้เรือไม่ติดขัดเดินไปได้โดยสะดวกฉะนั้น ทางที่จะตั้งตนไว้
ชอบมีหลายประการ จึงสันนิษฐานเห็นในสสัมมัปปธานกิจ ๔ คือมีสติสัมปชัญญะคอยระวังไม่ให้
ทำความเสื่อมเสียซึ่งยังไม่เคยทำ ละความเสื่อมเสียทีเคยทำแล้วนั้นเสีย ความเจริญดีที่ยัง
ไม่เคยทำ ก็สนใจทำ ความเจริญดีที่ทำไว้แล้ว รักษาไว้ให้มั่นคงไม่ให้เสื่อมลง มีแต่จะให้คงที่
แลให้เจริญทวียิ่งขึ้น ประพฤติเช่นนี้ ชื่อว่าอัตตสัมมาปณิธิ ตั้งตนไว้ชอบ อนึ่งความเว้นจาก
ทุจริต ทั้ง ๓ ชนิดไม่ประพฤติผิดด้วยกาย วาจา ใจ ตั้งตนไว้ในสุจริตทั้ง ๓ ประการ ประพฤติ
ชอบด้วยไตรทวาร บำเพ็ญให้สมบูรณ์ เพิ่มพูนจนเต็มทั้ง ๓ หน้าที่ ทำให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ดีทั้งต่อ
หน้าทั้งลับหลัง ดังนี้ก็ชื่อว่าอัตตสัมมาปณิธิ ตั้งตนไว้ชอบ อีกประการหนึ่ง หลีกเสียจากอคติทั้ง
๔ คือ ไม่ประพฤติลำเอียงให้ผิดธรรม ด้วยอำนาจความรักใคร่ชอบพอเห็นแก่กันก็ดี ด้วยอำนาจ
ความหลงเขลาไม่รู้เท่าถึงการฝึกก็ดี ด้วยอำนาจความหวาดกลัวหรือเกรงใจกันก็ดี เช่นนี้ ก็ ก็ชื่อ
ว่าอัตตสัมมาปณิธิ ตั้งตนไว้ชอบ อีกประการหนึ่ง วางตนให้เหมาะแก่ความเป็นไปของตน คือ
เป็นผู้ใหญ่ก็ประพฤติตนให้เป็นหลักฐาน มีเมตตากรุณาปรานีอารีในผู้น้อย เป็นคนเสมอกัน ก็
ประพฤติตามฉันมิตร ซื่อสัตย์สุจริตแลเผื่อแผ่แก่เขา เป็นผู้น้อยก็ประพฤติต่ำต้อยอ่อนน้อมเอื้อเฟื้อ
แก่ท่านผู้ใหญ่ เช่นนี้ ก็ชื่อว่าอัตตสัมมาปณิธิ ตั้งตนไว้ชอบ บุคคลมีความรุ่งเรืองมาแล้วแต่กลับ
ตกอับ ก็เพราะตั้งตนไวไม่ชอบ ฝ่ายบุคคลผู้อัปภาคย์มาแต่เดิมแล้วกลับจำรูญ ก็เพราะตั้งตนไว้
ชอบ อนึ่ง พระธรรมบรรยายราชสุภาษิตอัน