ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
(เจริญ ญาณวรเถร)
๓๑๓
สงบแห่งจิต มิให้คิดตื่นเต้นฟุ้งซ่าน. การบำเพ็ญปัญญาสิกขา คือการศึกษาทางปัญญาได้แก่การ
จำเริญวิปัสสนา ก็เพื่อกำจักกิเลสอาสวะอันเป็นข้าศึกแก่ความสงบแห่งจิต, ความสงบที่มุ่งหมาย
ตั้งแต่ภายนอก ตลอดถึงภายใน ถ้าปฏิบัติได้อย่างนั้น จึงชื่อว่า อุปสนฺโต ผู้สงบระงับ, มีคาถา
พุทธภาษิตสาธกรับข้อนี้ว่า
สนฺตกาโย สนฺตวาโจ
วนฺตโลหามิโส ภิกขุ
สนฺตมโน สุสมาหิโต
อุปสนฺโตติ วุจฺจติ
។
แปลว่า ภิกษุผู้มีกายสงบแล้ว มีวาจาสงบแล้ว มีใจสงบแล้ว ตั้งมั่นดีแล้ว มีอามิส คือเหยื่อในโลก
อันคายเสียแล้ว เรากล่าวว่า ผู้สงบระงับ ดังนี้ สันติย่อมเป็นมูลแห่งสุขอันไม่เจือด้วยอามิส
เรียกนิรามิสสุข เป็นสุขอยางสุขุม เป็นสุขอันแท้จริง มีพุทธภาษิตว่า นตฺถิ สนฺติปร์ สุข สุข
ยิ่งกว่าความสงบไม่มี, ความสุขเพราะลาภได้ยศได้สรรเสริญเป็นสุขอิงอามิส เรียกสามิสสุข เป็น
สุขอันเจือด้วยทุกข์บัณฑิตไม่พิจารณาเห็นว่า เป็นสุข อันแท้จริงเหมือนสุขเกิดแต่ความสงบ, นิพ
พาน ปรม วทนฺติ พุทธา ท่านผู้รู้ทั้งหลาย ย่อมกล่าวพระนิพพานว่าเป็นธรรมอย่างยิ่ง ก็
เพราะพระนิพพานเป็นยอดแห่งความสงบ, คำสอนอันเว้นสันติเสียแล้ว
จัดเป็นศาสนธรรมธรรม
ไม่ได้เลย ในทางคดีธรรม สันติย่อมเป็นคุณสมบัติ ไม่มีอย่างอื่นจะพึงเปรียบปาน ด้วยประการ
ฉะนี้.
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ทรงตั้งแลแก้ไขพระราชกำหนดกฎหมายก็ดี ทรง
บำรุงศาลยุติธรรมก็ดี ทรงบำรุงการทหายก็ดี ทรงบำรุงการอารักขาก็ดี ทรงรักษาพระราชไมตรี
กับนานาประเทศ ให้สนิทสนมก็ดี ก็เพื่อความสงบราบคาบแห่งพระราชอาณาจักรทั้งภายใน ทั้ง
ภายนอก ตามพระราชธรรมแห่งพระมหากษัตริย์ นี้จัดเป็นมงคลวิเศษที่ ๒
รัฏฐาภิบาลโนบายนั้น คือวิธีปกครองพระราชอาณาจักร จะรับพระราชทานชักมาถวาย
วิสัชนาเพียงสังคหะหรือสงเคราะห์ คือการรู้จักยึดเหนี่ยวน้ำใจคน, คุณข้อนี้ เป็นกำลังสำคัญอัน
ควบคุมความสามัคคีและอุปถัมภ์ให้ดำรงมั่น เหตุดังนั้นพระโบราณาจารย์จึงได้แสดงไว้โดย
ความเป็นราชกรณียะของพระเจ้าแผ่นดินประการหนึ่ง ในสังคหวัตถุกถาแลจักรพรรดิวัตร
ในสังคหวัตถุนั้น ท่านแสดง สังคหวัตถุ ๔ ประการ คือ สสฺสเมธ์ ทรงพระปัญญาในการบำรุง
ธัญาหาร ให้บริบูรณ์ในราชอาณาเขต ๑ ปุริสเมธ์ ทรงพระปรีชาญาณในการสงเคราะห์ราชบุรุษ
๑ สมมาปาส์ ทรงรู้จักผูกคล้องน้ำใจคนให้นิยมยินดี ๑ วาจาเปยย์ ตรัสพระวาจาอ่อนหวาน
ควรดื่มไว้ในใจ ทำความเป็นที่รัก