อนาคาริยวินัยและวินัยของคฤหัสถ์ มงคลวิเสสกถา หน้า 174
หน้าที่ 174 / 390

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงอนาคาริยวินัยซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่สำคัญสำหรับคฤหัสถ์ ในการไม่ต้องอาบัติ 7 ประการ โดยมีศีลจตุปาริสุทธิที่ประกอบด้วยความสำรวมในปาฏิโมกข์และอินทรีย์ รวมถึงการเว้นจากอกุศลกรรมบถ 10 ประการ การรักษาศีล 5 และการมีอาชีพที่บริสุทธิ์ การที่คฤหัสถ์ศึกษาวินัยดีส่งผลให้เป็นมงคลและนำมาซึ่งความสุขในชีวิต

หัวข้อประเด็น

-อนาคาริยวินัย
-วินัยของคฤหัสถ์
-ศีลจตุปาริสุทธิ
-การเว้นจากอกุศลกรรม
-การศึกษาดีในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ๑๗๘ คฤหัสถ์ ผู้ครองเรือน และแสดงว่า อนาคาริยวินัยได้แก่การไม่ต้องอาบัติ ๗ กอบอีกนัยหนึ่ง ได้แก่ จตุปาริสุทธิศีล ศีลที่บริสุทธิ์ ๔ คือ ปาฏิโมกข์สังวร ความสำรวมในปาฏิโมกข์อินทรี สังวร ความสำรวม อินทรีย์คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อาชีวปาริสุทธิ ความเลี้ยงชีพ บริสุทธิ์ปัจจัยสันนิสสิตะ อาศัยปัจจัยคือพิจารณาบริโภคปัจจัยสี่ ๓ การเว้นจากอกุศลกรรมบถ ทางแห่งกรรมที่เป็นอกุศล ๑๐ ประการ ชื่ออาคาริยวินัย วินัยของคฤหัสถ์ คือเว้นจากกายกรรมฝ่ายอกุศล ได้แก่ ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดใน กามเว้นจากวจีกรรมฝ่ายอกุศล ๔ ได้แก่ พูดเท็จ พูดเสียด พูดหยาบคาย พูดเพ้อเจ้อ เหลวไหล เว้นจากมโนกรรมกรรมฝ่ายอกุศล ๓ ได้แก่ โลภเพ่งเล็งทรัพย์สมบัติของผู้อื่นคิดปอง ร้ายผู้อื่น เห็นผิดจากทำนองคลองธรรม แต่มีสัมมาทิฏฐิ เห็นชอบตามทำนองคลองธรรม แม้ ศีลสำหรับคฤหัสถ์ทั้งหมด มีศีล ๕ เป็นต้น ก็นับรวมเข้าด้วย วินัยนั้น ชื่อว่าศึกษาดีแล้ว เพราะไม่ต้องโทษเครื่องเศร้าหมอง และเพราะทำตนให้ ตั้งอยู่ในคุณมีมารยาท ชื่อว่ามงคล เพราะนำประโยชน์สุขมาให้ในโลกทั้ง ๒ พระดาบสโพธิสัตว์ชื่อคันธาระได้กล่าวเตือนดาบสสหายว่า “ถ้าปัญญาของตนเองหรือ วินัยที่ศึกษาดีแล้วจะไม่มีไซร้ ชนเป็นอันมากก็จะพึงเที่ยวไป เหมือนกระบือบอดเที่ยวไปใน ก็แต่เพราะสัตว์บางเหล่าในโลกนี้เป็นผู้ศึกษาดีแล้ว ในสำนักอาจารย์ฉะนั้น เหล่านั้นเป็นผู้มีปัญญา มีวินัย อันอาจารย์แนะนำแล้ว มีใจมั่นคงแล้ว จึงเที่ยวไป” ป่า สัตว์ พระโพธิสัตว์ได้แสดงความนี้ว่า “ก็ผู้นี้ยังเป็นคฤหัสถ์ ควรศึกษาข้อศึกษาอันสมควร แก่สกุลของตน ที่เป็นบรรพชิตก็ควรศึกษาข้อควรศึกษาอันสมควร แก่บรรพชาเพราะว่า แม้คฤหัสถ์ทั้งหลายผู้ศึกษาดีในการงาน มีกสิกรรมและโครักขกรรมเป็นต้น ชื่อว่าสมควร แก่สกุลของตน เป็นผู้มีอาชีพสมบูรณ์แล้วชื่อว่าถอยกลับเป็นต้นอันนำมาซึ่งความเลื่อมใส และในอธิศีลสิกขา อธิจิตสิกขา และอธิปัญาสิกขา ซึ่งสมควรแก่บรรพชาชื่อว่าเป็นผู้มีจิต มั่นคงดีเที่ยวไป” พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสในมงคลสูตรว่า วินโย จ สุสิกขิโต วินัยอันศึกษาดีแล้ว ข้อนี้เป็นมงคลอันอุดม เอตมุมงฺคลมุตฺตม์.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More