ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร)
อภิวาทนสีลิสฺส
๔
นิจจ์ วุฑฒาปจายิโน
๒๖๑
จตุตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วัณโณ สุข พล ฯ
ความว่า ธรรมสิ่งชอบเป็นคุณที่สัตว์ต้องประสงค์ ๔ ประการ คือ อายุ พรรณ ผิวกาย สุขกาย
สบายจิต กำลังกาย กำลังความคิด ย่อมเจริญทวีมากขึ้นแก่บุคคลผู้ทำการกราบไหว้เป็นปกติ
คำนับนบนอมผู้เจริญอยู่เป็นนิตย์ มีอธิบายว่า อปจายนมัยกุศลนั้น เป็นประโยคสมบัติมีกำลัง
บำบัดอุปปีฬกกรรมแลอุปฆาตกกรรมเสีย ไม่ให้ช่องเพิ่มอนิฏฐผลแก่สาธุชนนั้น
ๆ ก็พ้น
ภยันตรายต่าง ๆ มีอายุยืนดำรงอยู่นาน พรรณะ สุขะ พละ ๓ ประการ ก็เจริญตามอายุนั้น เมื่อ
ทำลายขันธ์แล้วยังมีสุคติภพเป็นที่ไป ณ เบื้องหน้า ดังแสดงไว้ในคาถาว่า สมปราโย จ สุคคติ
แลสัมปรายภพจะเป็นสุคติ ดังนี้
คนนเจ ตรมานาน ชิมห์ คจฺฉติ ปุงฺคโว
เป็นต้น ความว่า เมื่อฝูงโคข้ามฟากอยู่ ถ้าโคผู้นำฝูงไปคด โคทั้งหมดนั้นก็ไปคดตามกัน ถ้าโค
ผู้นำฝูงไปตรง โคทั้งปวงนั้นก็ไปตรงตามกัน ข้อนี้ฉันใด
เอวเมว มนุสฺเสส
โย โหติ เสฏฐสมมโต ฯ
ในหมู่มนุษย์ก็อย่างเดียวกันฉันนั้น ถ้าท่านผู้ได้รับสมมติให้เป็นใหญ่ ประพฤติไม่เป็นธรรมน่าที่
ประชาชนนอกนี้ก็จะประพฤติไม่เป็นธรรมบ้าง ถ้าท่านประพฤติเป็นธรรม ก็ชักนำประชานิกรให้
ประพฤติเป็นธรรมบ้าง ถ้าพระราชาไม่ตั้งอยู่ในธรรมในสัตย์ รัฐจังหวัดทั้งปวงก็อยู่ไม่เป็นสุข
สำราญ แม้แต่สมเด็จพระโลกุตมาจารย์ผู้ประเสริฐเลิศกว่าศาสดาทั้งปวงในพิภพ ก็ทรงสักการะ
เคารพพระธรรมเป็นใหญ่ มีเรื่องเล่าไว้ว่า เมื่อครั้งพระองค์แรกตรัสรู้ เสด็จประทับอยู่ใต้ร่มไม้อช
ปาลนิโครธ ใกล้ฝั่งแม้น้ำเนรัญชรา ณ อุรุเวลาประเทศพระองค์ทรงพระดำริเห็นเหตุว่า ความ
ไม่มีที่เคารพเชื่อถือเป็นความลำบาก แลทรงเลือกหาผู้ที่พระองค์ควรสักการะเคารพ ก็มิได้พาน
พบสมณพราหมณ์ผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งทรงคุณคือศีล สมาธิ ปัญญา แลวิมุติพิเศษ ยิ่งกว่าพระองค์
แต่ดังนั้นก็ยังทรงสักการเคารพ