ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
๖๕
โกศลรัฐ แต่ครั้งยังเป็นพระราชกุมาร เจ้ามหาลิจฉวีกุมาร นครไพศาลี กับเจ้าพันธุลมัลลราช
บุตรนครกุสินารา ต่างได้เสด็จไปเมืองตักกสิลา และทรงเรียนศิลปะในสำนักอาจารย์ทิสา
ปาโมกข์ในสมัยเดียวกัน ได้เป็นสัมพันธมิตรคุ้นเคยสนิทสนมกันมา ดังนี้ ครั้งพระราชโอรสเสร็จ
กิจศึกษาและเสด็จกลับถึงพระนครแล้ว โปรดเกล้า ฯ ให้มีตำแหน่งรับราชการ ทรงสร้างวัง
พระราชทานและปลูกฝังตามนิยม เมื่อเป็นคราวที่สมควร ก็ทรงสถาปนาไว้ในพระราชอิสริยยศ
ยิ่งขึ้นไป ทุกพระองค์ได้เป็นกำลังแห่งราชการประดับพระบรมเดชานุภาพ ในการปราบปฏิปักษ์
และพิทักษ์รักษารัฐมณฑล
กับทั้งประชาราษฎรแม้นด้วยพระโอรสของพระเจ้าจักรพรรดิราชผู้เกิด
สำหรับพระประดับพระบารมีธรรมมีคำสรรเสริญในจักรวัติสูตรว่า ปโรสหสฺส โข ปนสฺส ปุต
ตา อเหส์ สุรา วีรงครูปา ปรเสนปมททนา พระราชโอรสของพระเจ้าจักรพรรดิราชนั้น
มากกว่า ๑,๐๐๐ พระองค์ ล้วงทรงแกล้วกล้า มีพระรูปต้องด้วยลักษณะโยธาหาญ สามารถย่ำยี
ปรปักษ์เสียได้ ดังนี้ พระคุรส่วนปุตตสังคหะเป็นที่ตั้งแห่งอิฏฐวิบุลผลในพระองค์กับทั้งอาณารัฐ
จัดว่า เป้นมงคลอันพิเศษอีกประการหนึ่ง เป็นที่ ๒.
พระราชจรรยารัฏฐาภิบาลโนบายข้อ ๓ นั้น คือราชกรณียกิจที่ทรงจัดขึ้นด้วยพระบรมเด
ชานุภาพ เพื่อเป็นประโยชน์คุณแก่พระราชอาณาจักรกับทั้งประชาชนข้าขอบขัณฑสีมา, ในขวบ
หลัง ตั้งแต่กันยายน ศก ๑๔ ถึง สิงหาคม ศก ๑๒๕ นี้ข้อที่ควรยกขึ้นพรรณนา
ในฝ่ายพระราชอาณาจักรแผนกอารักขา ได้ทรงตั้งพระราชบัญญัติจัดการทหารขึ้นใหม่
เพื่อรักษาความสงบในรัชสีมา, ข้อนี้เป็นพระราชธุระของพระมหากษัตริย์เจ้ามา แต่ครั้งโบราณ
สมัย ในเวลาที่ปันชนเป็น ๔ จำพวก คือ กษัตริย์ ๑ พราหมณ์ ๑ แพศย์ ๑ ศูทร ๑. กษัตริย์
นั้นเป้นจำพวกมีหน้าที่ป้องกันรักษาความสงบในจังหวัด จัดไว้ในจำพวกนี้ทั้งท่านผู้ปกครองและผู้
เป็นเชื้อสาย, พราหมณ์นั้นเป็นจำพวกขวนขวายในศาสนา ปฏิบัติสันทัดในไตรเพท มีความรู้เป็น
ครูสอนกุลบุตรให้เรียนศิลปวิทยา และเป็นผู้อำนวยการบูชายัญพิธีต่าง ๆ . แพศย์นั้น เป็น
จำพวกประกอบในทางค้าขาย เป็นผู้จัดทำพัสดุทั้งหลายขึ้นเพื่อบำรุงสุขของคนทั่วไป, พวกศูทร
นั้น เป็นจำพวกไพร่ เป็นผู้ทำการงานของผู้อื่นด้วยกำลังอันมหาชนผู้ตั้งอยู่เป็นชุมชนในแดนดิน
อันหนึ่ง ๆ ซึ่งเรียกโดยอุปจารโวหารว่า บ้านเมืองหรือประเทศ จำต้องปรารถนาในหน้าที่กันทำ
เพื่อบำรุงรักษาชุมนุมนั้นให้มั่นคงแข็งแรง แม้ในจักรวัติสูตรก็แสดงว่า พระเจ้าจักรพรรดิราชมี
จาตุรงคินีเสนาคือกองทัพ ๔ เหล่า