อาชญากรรมและมิตรภาพในพระพุทธศาสนา มงคลวิเสสกถา หน้า 350
หน้าที่ 350 / 390

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับการพิจารณาคดีอาชญากรรมและการรับสารภาพ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของอาชีวะสำหรับทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์ นอกจากนี้ยังอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของมิตรและอมิตรในทางพระพุทธศาสนา โดยแบ่งออกเป็นสองประเภท คือ มิตรดีและมิตรชั่ว ซึ่งถูกรับรู้ผ่านลักษณะนิสัยต่าง ๆ และการมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับกัน ทำให้เกิดความเชื่อถือและการเกื้อหนุนกันในทางที่ดี รวมถึงการระบุลักษณะของอมิตรที่สามารถเป็นภัยได้. สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-การรับสารภาพในอาชญากรรม
-ความสำคัญของอาชีวะ
-มิตรและอมิตรในพระพุทธศาสนา
-ลักษณะนิสัยของมิตรดีและชั่ว
-การเกื้อหนุนในความสัมพันธ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) ๓๕๕ คดีอาชญาผู้รับสารภาพ โดยชื่นตา ทำความสะดวกแก่การพิจารณาก็ดี ก็เพื่อจะทรงนำพสกนิกร ให้รู้จักประพฤติต่าง ๆ ต่อผู้ปกครอง ทรงยกย่องข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้กราบทูลด้วยความ จริงใจ ไม่ทรงชุบเลี้ยงผู้กราบทูลเท็จหรืออำพราง ก็ดุจเดียวกันอาชีวะเป็นคุณสำคัญอันจะพึง ปรารถนาทั้งในฝ่ายบรรพชิต ทั้งในฝ่ายคฤหัสถ์ ด้วยประการอย่างนี้ สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ทรงอบรมพระคุณสมบัตินี้มาเป็นอาจิณ พระราชทานความสะดวกแก่ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้จะกราบบังคมทูลเรียนพระราชปฏิบัติด้วย ราชกิจ ทรงทำให้มีแก่ใจในอันปฏิบัติราชการ แลมั่นคงในความจงรักภักดีพระคุณสมบัตินี้ จัดเป็น มงคลวิเศษที่ต้น. ไมตรีนั้น แปลว่า ความเป็นมิตร โดยเนื้อความ ได้แก่ความผูกมิตร กล่าวโดยสาธารณ นัย ชนผู้รักใคร่กันสนิท ชื่อว่ามิตร ได้ในคำว่า มาตา มิตต์ สเก ฆเร อริยมิตตกุกโร สิยา คนสมควรทำพระอารยบุคคลให้เป็นมิตร. กล่าวโดยเฉพาะสหายผู้สนิท แลผู้มีเมตตา ชื่อว่ามิตร ได้ในคำว่า สหาโย อตฺถชาตสฺส สหายย่อมเป็นมิตรของผู้มีกิจธุระเกิดขึ้นเนื่อง ๆ โหติ มิตต์ ปูนญี่ปุ่น ลำพังเพื่อนร่วมการงานเป็นแต่สหายบ้าง อมาตย์บ้าง ไม่ชื่อว่ามิตร ต่อเป็นผู้สนิทสนมกัน มีเมตตาในกันด้วย จึงได้ชื่อว่มิตร, มิตรนั้นมีทั้ง ดีแลชั่ว ได้ในคำว่า กลยาณมิตฺโต ปาปมิตฺโต มิตรดีเรียกกัลยาณมิตร มิตรชั่ว เรียกว่า ปาปมิตร. ลักษณะเครื่องกำหนดรู้มิตร ๒ ประเภทนั้น ในสิงคาลาวทสูตร แสดงไว้ว่า มิตรชั่วย่อม เป็นผู้ปอกลอก เป็นผู้พูดไม่ได้จริง เป็นผู้ประจบ เป็นผู้ชักพาในทางฉิบหาย เรียกมิตร ประกอบด้วยลักษณะ ๔ เหล่านี้ว่า มิตตปฏิรูป คือคนเทียมมิตร, มิตรดีย่อมเป็นผู้อุปการะ เกื้อหนุนกันจริง เป็นผู้ร่วมสุขร่วมทุกข์กันได้เป็นผู้แนะนำในทางที่มีประโยชน์ เป็นผู้เอ็นดูรักใคร่ จริง เรียกมิตรเป็นผู้ประกอบด้วยลักษณะ ๔ เหล่านี้ว่า สุนัท คือคนมีใจดี, ในมิตตามิตตชาดก ในทวาทสนิบาตแสดงมิตรแลอมิตรไว้อย่างละ ๑๖ ประการ ลักษณะอมิตร คือเห็นเข้าแล้ว ไม่ยิ้ม แย้ม ไม่ยินดี มีนัยน์ตาไม่จับเขา ประพฤติขัดกัน คบหาชนผู้เป็นศัตรูของเขา ไม่คบหาชนเป็น มิตรของเขา ย่อมคัดค้านชนผู้พูดยกคุณสรรเสริญชนผู้ด่าว่าติเตียน ไม่บอกความลับของตนแก่เขา ส่วนความลับของเขาไม่ช่วย
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More