บทบาทของพระปัญจวัคคีย์ในพุทธศาสนา มงคลวิเสสกถา หน้า 325
หน้าที่ 325 / 390

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงพระปัญจวัคคีย์ในฐานะที่เป็นพยานที่สำคัญในการบำเพ็ญทุกรกิริยาของพระพุทธเจ้า และการเดินทางไปโปรดพระปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน การที่พระพุทธเจ้าไม่ลืมบุญคุณของมิตรและจะไม่ละทิ้งใคร รวมถึงกระบวนการที่ทรงบัญญัติพระวินัยด้วยเหตุปรากฏในการประพฤติของเหล่าสาวก เพื่อให้คนเข้าใจในธรรม

หัวข้อประเด็น

-บทบาทของพระปัญจวัคคีย์
-บำเพ็ญทุกรกิริยาของพระพุทธเจ้า
-การเดินทางเพื่อโปรดพระปัญจวัคคีย์
-การบัญญัติพระวินัย
-ความสำคัญของมิตรภาพในพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) ๓๓๐ เพราะว่าพระปัญจวัคคีย์นั้น นอกจากเป็นบรรพชิตด้วยกัน ยังเป็นพยานสำคัญในเรื่องบำเพ็ญทุ กรกิริยา แลการที่พระปัญจวัคคีย์ออกบวชตามเสด็จ เฝ้าอุปัฏฐากพระองค์ในเวลาทรงบำเพ็ญทุ กรกิริยาเพื่อว่าเมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้ธรรมวิเศษแล้ว จะได้ทรงสอนให้รู้ตามบ้าง ข้อนี้ปรากฏโด่ง ดังไปในที่นั้น ๆ แล้วถ้าพระองค์ไม่ทรงสอนพระปัญจวัคคีย์ให้รู้ธรรมตามเสด็จได้ก่อน ก็จะเป็น ข้อค้านยิ่งว่า แต่พระปัญจวัคคีย์สู้ออกบวชติดตามอุปัฏฐากพระองค์อยู่ทุกเช้าค่ำ พระองค์ยังไม่ ทรงสอนให้รู้ธรรมอะไรได้ จะป่วยกล่าวไปไยถึงคนอื่นเล่า แลในเวลานั้นพระปัญจวัคคีย์พากันออก ห่างจากพระองค์ไป ด้วยเข้าใจว่าทรงเลิกทุกกรกิริยาเสียแล้วจะตรัสรู้อะไร จะเฝ้าอุปัฏฐากอยู่ ต่อไปก็ไร้ผล ถ้าไม่ทรงแก้ความสำคัญผิดของพระปัญจวัคคีย์เสียให้ได้ก่อน ข่าวไม่สำเร็จของ พระองค์ก็คงกระฉ่อนอยู่ไม่สิ้นสุด เมื่อทรงสอนพระปัญจวัคคีย์ให้รู้ธรรมสิ้นความสำคัญผิดแล้ว ข่าวนั้นก็จะสงบไปเพราะอาศัยพระปัญจวัคคีย์นั้นเอง เพราะทรงเห็นแลทรงยอมอยู่ในอำนาจแห่ง เหตุอันนี้ จึงสู้อุตส่าห์เสด็จบทจรจากโพธิมณฑลไปโปรดพระปัญจวัคคีย์ซึ่งพักอยู่ ณ ป่าอิสิปตน มฤคทายวัน กรุงพาราณสี สิ้นระยะทางตั้งวัน ข้อนี้แสดงเยี่ยงของการณวสิกชนว่า แม้จะได้ ดีมีสุขยิ่งใหญ่ ก็ย่อมไม่ลบหลู่คุณท่านผู้เป็นบุพการี ไม่ตัดทอนไมตรีจิตในมิตรสหาย ไม่ละเลย คืนคายอันโตชนเก่า อนึ่ง ย่อมเลือกตั้งต้นประกอบการงาน ในทางที่เป็นหลักฐานแลได้ ประโยชน์มาก ตัดทางปรัปปวาทว่า เป็นคนอกตัญญู ประทุษร้ายมิตร ขาดสังหกิจในอันโตชน แลทำการงานไม่ได้ผลเป็นชิ้นเป็นอัน สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์เป็นพระสัพพัญญูรู้สิ่งที่ควรรู้ทั้งปวง แลเป็นพระสัพพทัสสาว เห็นการณ์ที่ควรเห็นทั้งสิ้น เป็นพระธรรมราชา ธรรมสวามีในกรณียะเนื่องด้วยพระศาสนา ก็ น่าที่จะทรงได้อิสระ เพื่อจะทรงบัญญัติจัดทำอย่างไร ๆ ได้ทุกเมื่อทุกประการ ถึงกระนั้นก็หาได้ ทรงอาศัยความเป็นอิสระนั้นทำอะไร ๆ ให้นอกเหนือเหลือล้ำกว่าเหตุไม่ ย่อมทรงประพฤติ เป็นไปตามอำนาจเหตุการณ์ จึงไม่เป็นฐานที่บัณฑิตพิจารณาแล้วจะตำหนิพระองค์ได้ เห็นในการทรงบัญญัติพระวินัยสิกขาบท ย่อมทรงบัญญัติต่อเมื่อมีเหตุปรากฏขึ้นก่อนทุกข้อจริงอยู่ เมื่อยังไม่มีผู้ประพฤติผิด เป็นนิทานปกรณ์ ถ้าพระองค์ทรงบัญญัติสิกขาบทห้ามล่วงหน้าไว้ก่อน ข้อครหาก็จะพึงมีว่า พระองค์แกล้งหาเรื่องกดขี่พระสาวกหาควรไม่ เธอทั้งหลายมีความเชื่อถือ คอยทำตามคำสอนอยู่ จะต้องบัญญัติผูกมัดหนักหนาทำอะไร อนึ่ง เธอเหล่านั้นล้วนแต่มี
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More