ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
ใน ศก ๑๒๔
ความเป็นผู้มีเมตตาเป็นเบื้องหน้า
๑
๔๗
G)
จะถวายวิสัชนาด้วยพระคุณพิเศษส่วนปรหิตปฏิบัติ ๓ ประการ คือ เมตตาปุเรจาริกตา
ปฏิสันถารกุศลตา ความเป็นผู้ฉลาดในปฏิสันถาร
รัฏฐาภิบาลโนบาย วิธีประกอบการบำรุงรักษาพระราชอาณาจักร ๑ พอเป็นนิทัสสนนัย
เมตตาปุเรจารึกตานั้น มีพรรณนาว่า เจตนาคิดสนิทสนม ชื่อว่า เมตตา, เมื่อกล่าวโดย
ความเมตตานั้น ได้แก่ เจตนาหวังความดีความงามให้แก่กัน หรือกล่าวสั้น ๆ ก็ความปรารถนาจะ
ให้ได้สุขนั้นเอง. กิริยาที่ดำริปรารภถึงใคร ๆ ก็ให้เว้นจากอาฆาตวิเหสาพยาบาทปรารถนาความ
เจริญแก่เขาเป็นที่ตั้งอยู่โดยปกติมีเมตตาท่องเที่ยวอยู่ในกิจเป็นนิตยกาล ชื่อว่า เมตตาปุเรจาริกตา
ความเป็นผู้มีเมตตาเป็นเบื้องหน้า
ๆ
คุณข้อนี้ พึงสาธกด้วยวารจิตของพระเจ้าติโลกวิชัยบรมจักรพรรดิราชในอดีตกาล, พระองค์
ทรงพระคำนึงถึงหมู่สัตว์ ด้วยพระราชอัธยาศัยเผื่อแผ่ประโยชน์ ดังแสดงในพุทธาปทาน (๑) ว่า
ยงกิญจิ กุสลํ กมฺม
กาเยน วาจามนสา
กฤตพุฒิ กิริย์ มม
ติทเส สุคติ กต.
กิริยาคือกุศลกรรมอันใดอันหนึ่ง ซึ่งเป็นกิจอันเราควรทำด้วยกาย วาจา ใจ กรุณยะนั้น เราได้
บำเพ็ญให้เป็นส่วนสุคติอันจะพาให้ไปเกิดในดาวดึงสพิภพแล้วทุกประการ
เย สตฺตา สญฺญโน อตฺถิ
เย จ สตฺตา อสญฺญโน
กต์ ปุญญผล มยุห์
สพฺเพ ภาคี ภวนฺตุ เต.
สัตว์เหล่าใดมีอยู่ เป็นผู้มีสัญญา รู้จักกำหนดหมาย รู้สึกสุขทุกข์ก็ดี หาสัญญามิได้ก็ดี ขอสัตว์ทุก
หมู่เหล่านั้น มีส่วนได้เสวยผลบุญที่เราได้บำเพ็ญแล้วนั้นเถิด
(๑) ขุ. อป. ๓๒/๖.