สหกรณ์และความสำคัญในสังคม มงคลวิเสสกถา หน้า 304
หน้าที่ 304 / 390

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของสหกรณ์ในสังคม โดยอิงจากพระบรมสาสน์ของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะนั้นจำเป็นต่อการเจริญเติบโตทั้งในระดับครอบครัวและสัญชาติ สหกรณ์เป็นการประมวลบรรจุความรู้และทรัพย์สินให้เจริญรุ่งเรือง ซึ่งสามารถเปรียบได้กับบทบาทของแมลงผึ้งที่ช่วยกันสร้างรัง ทรัพย์สินร่วมกัน และการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเพื่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนในสังคม

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของสหกรณ์
-การทำงานร่วมกันในสังคม
-บทบาทของพระพุทธโฆษาจารย์
-การสนับสนุนจากสัญชาติและสังคม
-ความเจริญรุ่งเรืองจากการร่วมมือ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) พวกหนึ่ง ๆ ย่อมรวมกันเข้าเป็นหมู่คณะ ตลอดถึงเป็นสัญชาติ ก็ฉันนั้น ย่อมต้องการสหกรณ์ แห่งกันและกัน ดุจโกฏฐาสทั้งหลายแห่งร่างกายฉะนั้น เพียงสังคีตแลดนตรีปี่พาทย์วงหนึ่ง ๆ ย่อมต้องการสหกรณ์ของคนทั้งหลายผู้เข้าในวง ถ้าขาดหรือบกพร่องไปแล้ว สำเนียงขับร้องจักไม่ เสนาะ สำเนียงประโคมจักไม่ไพเราะเลย วงสังคีตที่ได้รับชม ก็เพราะรู้จักคุมสหกรณ์ให้เป็นไป สม่ำเสมอกัน มีบาลีชมวิมานในดาวดึงส์สวรรค์ว่า ทิพพา จ วีณา ปวทนติ วคค พิณทิพย์ ทั้งหลายย่อมบรรเลยไพเราะเพื่อแสดงสหกรณ์แห่งนางอัปสรผู้ดีดพิณ ในสกุลก็ดี ในคณะก็ดี າ การปันงานกันทำเป็นกิจ จำปรารถนาในเบื้องต้น สหกรณ์การทำร่วมกันเป็นกรณี จำต้องการ ในลำดับต่อนั้นมา การสองอย่างนั้นเป็นไปกลมเกลียวกันกันแล้ว ย่อมยังสกุล ยังคณะ ให้ตั้งมั่น ให้เจริญรุ่งเรือง ดุจสหกรณ์แห่งโกฏฐาสทั้งหลาย ยังสรีระให้เป็นอยู่โดยผาสุกฉะนั้น. สมเด็จพระ โลกนาถเจ้าประทานพระพุทธานุศาสน์ไว้ เพื่อให้ดูเยี่ยงแมลงผึ้งแลปลวกว่า โกเค สำหรมานสุส ภมรสเสว อิริยโต วมมิโก วูปจียติ ។ โภคา สนใจย์ ยนต์ แปลว่า เมื่อชนในเรือน คือเนื่องในสกุลเดียวกัน ช่วนกันประมวลโภคทรัพย์อยู่เป็นเหมือนแมลง ซึ่งช่วยกันเคล้าเกสรดอกไม้มาทำน้ำผึ้งเลี้ยงลูกอ่อนได้เป็นรวงใหญ่โภคทรัพย์ย่อมเจริญขึ้นดุจจอม ปลวก อันปลวกตัวน้อย ๆ ช่วยกันก่อขึ้นได้เป็นรังใหญ่ฉะนั้นสัญชาติ ก็คือชุมนุมที่รวบรวมสกุล แลคณะมากมาย ย่อมต้องการความฝันงานกันทำแลสหกรณ์การทำร่วมกันเช่นเดียว จำพวกคน ทำโภคทรัพย์ให้เกิด จำหวังให้ทำต่างชนิดกัน ถ้าเป็นได้อย่างนี้ โภคทรัพย์ของสัญชาติจึงจัก บริบูรณ์ แลจำพวกคนประกอบต่างกัน จำหวังให้ต่างฝ่ายต่างทำ เพื่อความสะดวกแห่งกันแลกัน ความได้ความเสีย ย่อมเนื่องถึงกัน เช่นชาวนาทำข้าวได้พวกค้าขายก็พอขายของดีมีกำไรงาม ถ้า ชาวนาทำข้าวไม่ได้หรือได้ไม่บริบูรณ์พวกค้าขายก็พลอยขายของไม่ได้หรือขายได้น้อย เดินเรือก็พลอยได้พลอยเสียด้วย พวก เพราะกสิกรรมและพาณิชกรรม อันจําพวกคนทำการ หวัง ความป้องกันแลความบำรุงแห่งจำพวกผู้ปกครอง ฝ่ายจำพวกผู้ปกครองจำหวังความสนับสนุนแห่ง จำ พวกคนผู้อยู่ใต้ปกครองแลสหกรณ์แห่งเจ้าหน้าที่ต่างแผนกในคณะของตนความบกพร่องแห่ง กิจสังวิภาค คือความแบ่งงานกันทำ แลสหกรณ์นั้น ย่อมเหนี่ยวความเจริญของสัญชาติไว้ไม่ให้ จำรูญ ความบริบูรณ์แห่งสมบัติ ๒ ประการนั้น ย่อมส่ง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More