ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
สภาที่ไม่มีสัตบุรุษ
ผู้ไม่พูดเป็นธรรม
ไม่ชื่อว่าสภา
ไม่ชื่อว่าสัตบุรุษ
ผู้ละ หรือสงบราคะ โทสะ โมหะ พูดเป็นธรรม ชื่อว่าสัตบุรุษ
២៣៨
ในการปฏิบัติ จำต้องอาศัยวิริยะความเพียร เผาผลาญกำจัดความเกียนคร้าน และการ
จึงมักแสดงอธิบายตบะด้วยความเพียรตามนัยที่ได้ถวายวิสัชนา มาในข้อวิริย
ปฏิบัติผิดหน้าที่
บารมี
ข้อที่พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทรงพระวิริยะอุตสาหะ พร้อมทั้งพระขันติธรรมใส่พระราช
หฤทัยในการปกครองพระราชอาณาเขต
และประชาชนให้เกษมสุขปราศจากภยันตรายมีพระตบะ
เดชะเป็นที่ยำเกรงแห่งบุคคลทั่วไป ไม่อาจหมั่นพระบรมเดชานุภาพได้ทั้งทรงสมาทานกุศลวัตร
เพื่อระวังบาปอกุศลที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้นเพื่อกำจัดบาปอกุศลที่
ทรมานพระกาย พระกมล
เกิดขึ้นแล้วให้เสื่อมสูญ ไม่ตั้งอยู่ได้ จัดเป็นตปะหรือตบะ
บารมีข้อที่ 5 คือ ขันติ กับทศพิธราชธรรมข้อที่ 5 คือตปะหรือตบะ มีความหมาย
อันเดียวกัน เพราะตบะย่อมหมายถึงขันติด้วย ดังพระโอวาทปาฏิโมกข์ข้อว่า ขนติคือความ
ทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง และข้อขันติได้รับพระราชทานถวายวิสัชนามาแล้วในข้อขันติบารมี ตบะ
เป็นทศพิธราชธรรมข้อที่ 5
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทรงพระเจริญด้วยพระบารมีพร้อมพระราชธรรมจริยา
ยกโดยเฉพาะในกถามรรคนี้ คือวิริยะและขันติ เป็นส่วนอัตตสมบัติ กับทั้งมัททวะความอ่อนโยน
เป็น
และตบะคุณ เป็นเครื่องเผาผลาญบาปอกุศล ทั้งทรงปฏิบัติหน้าที่อย่างเยี่ยมยอด
รัฏฐาภิบาลโนบายส่วนปรหิตปฏิบัติ คือเหตุสำคัญที่นำให้เข้าถึงความเจริญในการปกครองรัฐให้
วัฒนาสถาพร ดังจะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจนานัปปการที่ได้ทรงปฏิบัติตลอดมา ซึ่งไม่อาจ
ยกขึ้นแสดงสาธกด้วยกถามรรคเพียงครั้งเดียว
ได้จะรับประราชทานยกสาธกถวายเพียงบาง
ประการ เพื่อทรงพิจารณาพระธรรมส่วนชอบอันตั้งอยู่ในพระองค์เป็นเครื่องเจริญพระราชหฤทัย
ด้วยพระปีติโสมนัส
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนประชาชน
พระราชทานความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่าง
๒๔๙๕ เป็นต้นมา เพราะทรงถือว่า
น
ๆ ตงแต่ พ. ศ.