ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
៨២
ในสิงคาโลวาทสูตร สมเด็จพระชินสีห์ตรัสเรียกบาปมิตรว่า มิตรปฏิรูป คือ มิตรเทียม
ตรัสรียกกัลยาณมิตรว่าสุนัท คือคนใจดีที่จัดว่า เป็นมิตรแท้ คือ เป็นผู้ปอกลอกเป็นผู้พูดไม่ได้
จริง เป็นผู้ประจบ เป็นผู้ชักพาในทางฉิบหาย. มิตรแท้นั้น คือเป็นผู้อุปการะเกื้อกูลกันจริง เป็น
ผู้ร่วมสุขร่วมทุกข์กันได้ เป็นร่วมสุขร่วมทุกข์กันได้ เป็นผู้แนะนำในทางที่เป็นประโยชน์ เป็นผู้
เอ็นดูรักใคร่จริง, ครั้นทรงแสดงลักษณะแห่งมิตรเทียมและมิตรแท้ดังนี้แล้วตรัสให้เว้นมิตรเทียม
เสียห่างไกล
เหมือนคนเดินทางเวนทางมีภัยอันตราย อีกฝ่ายหนึ่งตรัสให้เข้าหามิตรแม้เหมือน
มารดาไม่ทิ้งบุตรฉะนั้น
ในมิตตามิตตชาดก ในทวาทสนิบาต (๒) แสดงดลักษณะมิตรไว้ ๑๖ ประการ คือ มิตร
ไม่อยู่ย่อมคิดถิด กลับมาถึงย่อมยินดี ย่อมเล่นหัวด้วย ย่อมสนทนาปราศรัย ผู้ใด เป็นมิตรของ
มิตร ย่อมคบด้วย ผู้ใดเป็นศัตรู ย่อมไม่คบด้วย ผู้ใดด่าว่ามิตร ย่อมห้าม ผู้ใดยกย่องคุณ ย่อม
สรรเสริญ ย่อมบอกความลับของตนแก่มิตร ย่อมปิดความลับของเขาไม่ให้แพร่งพราย มิตรทํา
อะไร ย่อมพูดยกย่อง ย่อมพูดเอใจสรรเสริญปัญญาความคิดของมิตร มิตรมีความเจริญ ย่อมพลอด
ยินดี มิตรมีความเสื่อมเสีย ย่อมพลอยเป็นทุกข์ ได้ของกินแปลกมา ย่อมนึกถึงมิตร คิดเผื่อแผ่
ฉะนี้.
โหติ มิตต์ ปูน ปูน (๓)
สหาโย อตฺถชาตสฺส
สหายย่อมเป็นมิตรของผู้มีกิจธุระเกิดขึ้นเนือง ๆ มา ควรแล้วที่กุลบุตรจะคบหากัลยาณมิตร และ
เอื้อเฟื้อเอาใจไว้เป็นกำลัง
สกุกาวา สกุกโต โหติ
ครุ โหติ สคารโว (๔)
สักการะเขาแล้ว ก็ย่อมเป็นผู้ที่เขาสักการะตอบ เคารพเขาแล้ว ก็ย่อมเป็นที่เคารพของเขา, สมเด็จ
พระโลกนาถเจ้าก็ได้ตรัสประทานโอวาทไว้แก่สิงคาลมาณพว่า (๕) ปญฺจ โข คหปติปุตต
ฐาเนหิ กุลปุตเตน อุตตรา ทิสา มิตตามจุจา ปัจจุปฏฐาตพพา ดูก่อนคฤหบดีบุตรมิตร
อมาตย์ผู้เปรียบด้วยทิศเบื้องซ้าย อันกุลบุตรจึงบำรุงด้วยฐานะ ๕ ประการ คือ ทาเนน ด้วย
การให้พัสดุสิ่งของเกื้อกูล เปยยวชเชน ด้วยกล่าวถ้อยคำที่จับใจ อตฺถจริยาย ด้วยประพฤติการ
ที่เป็นประโยชน์แก่มิตร สมานตฺตตาย ด้วยความ
(๑) ที. ปา. ๑๑/๑๙๔. (๒) ขุ. ชา ทวาทส. ๒๗/๓๔๐ (๒) สํ. ส. ๑๕/๕๑.
(๔) ขุ.ชา. นวก. ๒๘/๑๕๔. (๕) ที. ปา. ๑๑/๒๐๔.