ข้อความต้นฉบับในหน้า
อักโกธะ
สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
ที่หมายถึงเมตตาจึงมีความหมายที่อาศัยซึ่งกันและกันเป็นไป
ทศพิธราชธรรมข้อที่ ๗
๒๑๖
อักโกธะ
เป็น
อวิหิงสา ความไม่เบียดเบียน กิริยาที่ไม่เบียดเบียนให้ลำบาก คือความไม่ก่อทุกข์ยาก
แก่ผู้อื่นตลอดถึงสัตว์ ด้วยเห็นเป็นสนุกของตนเพราะอำนาจโมหะ เช่น ทำร้ายคนและสัตว์อื่น
เล่น ชื่อว่าอวิหิงสาคนที่รวมกันอยู่เป็นหมู่ ทั้งผู้ปกครอง ทั้งผู้อยู่ในปกครองจะอยู่ด้วยกันได้เป็นสุข
เพราะไม่เบียดเบียนกันโดยเฉพาะผู้ปกครองจึงจำต้องอาศัยเก็บภาษีอากรจากราษฎร์ผู้อยู่ใน
ปกครองเพื่อจ่ายบำรุงประเทศ และต้องเกณฑ์กำลังแรงบ้างเป็นบางคราวที่จำเป็น แต่ถ้าเก็บและ
เกณฑ์รุนแรงอันเป็นการรีดเกินสมควรราษฎร์ผู้อยู่ในปกครองก็เดือดร้อน ระส่ำระสาย อยู่ไม่เป็น
สุข มีเรื่องครั้งโบราณว่า ผู้อยู่ในปกครองถูกผู้ปกครองเบียดเบียนต่างอพยพไปอยู่ต่างถิ่นก็มี
ความไม่เบียดเบียนจะเป็นไปได้ต้องอาศัยกรุณาเป็นเบื้องหน้า และอันความไม่เบียดเบียนนี้ เมื่อ
มาคู่กับอักโกธ คือ ความไม่โกรธ ก็มีความที่ต่างกันอยู่บ้างและสัมพันธ์กันบ้าง
อันอักโกธะ คือความไม่โกรธอันเป็นทศพิธราชธรรมข้อที่ ๗
เมื่อ
ที่ได้แสดงมาแล้วนั้นคือ
ความไม่ลุอำนาจต่อความโกรธ อันรวมถึงโทสะพยาบาทอัน จะทำให้ทำร้ายผู้อื่น ด้วยอำนาจ
ของความโกรธ ด้วยอำนาจของโทสะ ถึงหมายถึงความที่มีเมตตานั้นเอง แต่การที่ไม่ยกเอาเมตตา
เป็นที่ตั้งออกหน้า แต่ยกเอาอักโกธะคือไม่โกรธออกหน้า ก็เพื่อที่จะจี้จุดอันสำคัญ ของ
ผู้ปกครองซึ่งเป็นผู้มีอำนาจ ซึ่งตั้งแต่โบราณมามักจะเป็นผู้ลุอำนาจของความโกรธ
โกรธขึ้นมาแล้วก็ จะมักจะสั่งทำร้ายผู้ทารุณผู้ที่ถูกโกรธนั้น ผู้มีอำนาจตั้งแต่โบราณมักจะเป็น
อย่างหน้า เพราะฉะนั้น จึงต้องคอยเอาอกเอาใจเพื่อไม่ให้โกรธ โดยการที่พยายามตามใจต่าง ๆ
เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีอำนาจไม่มีธรรมะจึงมักเป็นผู้โกรธง่าย สั่งทำร้ายใครง่าย ๆ ดังที่ปรากฏมาใน
โบราณ เพราะฉะนั้น เมื่อแสดงธรรมะของผู้ปกครองเพื่อจะจี้จุดนี้จึงได้ยกเอาความไม่โกรธ
และในข้อ
ขึ้นมาตั้งไว้เป็นหัวข้อ ซึ่งโดยความก็คือความมีเมตตานั้นเอง ดังที่ได้แสดงมาแล้ว
นี้ได้ยกเอาอวิหิงสา ความไม่เบียดเบียนมาเป็นหัวข้อ ก็เพราะว่าบรรดาผู้ปกครองตั้งแต่ในอดีตมา
เมื่อมีอำนาจขึ้น แม้ว่าไม่โกรธ แต่ก็ลุอำนาจของความโลภความหลง ไม่ได้พิจารณาให้เหมาะสม
กับการสั่งปฏิบัติการต่าง ๆ เป็นการเบียนเบียนผู้อื่น ให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วยอำนาจของโลภะบ้าง
ด้วยอำนาจของโมหะคือความหลงบ้าง เช่นว่าเมื่อไปในที่ไหน เมื่อเห็นสิ่งที่ชอบใจก็มัก จะหาทาง
นำมาให้ได้เป็นของตน เช่นจะเป็นทรัพย์สินก็ดี จะเป็นสตรีก็ดี จะเป็นแก้วแหวนเงินทองก็ดี
เพราะฉะนั้น