ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
៥៨
พวกกษัตริย์ลิจฉวี ผู้ครองแคว้นวัชชี ในเวลาเธอกำลังตั้งอยู่ในสามัคคีพรักพร้อมเป็นสมานฉันท์
ช่วยกันต่อสู้ป้องกันอาณาจักรด้วยความองอาจ ท้าวเธอก็ไม่สามารถจะได้ชัยชนะ ต่อภายหลัง
แต่งกลอุบายปล่อวัสสการพราหมณ์มหาอมาตย์ไปยุยงให้แตกสามัคคีจากกัน
จงได้มิชย
ตีได้
แคว้นวัชชีมอยู่ใต้อำนาจของพระองค์, ข้อนี้ก็ให้ลงสันนิษฐานว่า ครั้งก่อนยังไม่เป็นเวลา การจึง
ไม่สำเร็จสมหมาย ครั้นภายหลังประกอบถูกคราวจึงสำเร็จได้ แม้ในคัมภีร์ชาดก ท่านก็ได้ยก
ความข้อนี้ขึ้นแสดงในบาทคาถาโดยความเป็นราชภาษิตของพระเจ้าคามณีว่า
อปิ อตรมานาน
ผลาสาว สมิชฺฌติ
เออก็ความหวังในวิบุลผล ย่อมสำเร็จแก่บุคคลผู้มีปรีชาญาณค่อยประกอบการงานโดยอุบาย ไม่
มักง่ายด่วนเห็นแต่ได้เข้าว่า ดังนี้ อีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อถึงเวลาก็หาประกอบกิจที่จะพึงทำไม่ ปล่อย
ให้กาลล่วงไปเสียแล้ว จึงปรารถจะทำเมื่อภายหลัง เมื่อเป็นดั่งนี้ ก็จะคลาดจากประโยชน์ที่จะพึง
ได้ฟังถึง, ข้อนี้มีเรื่องพระเทวทัตต์เป็นนิทัสสนะ พระเทวทัตต์นั้นในเวลาที่เธอยังสามารถ ก็มิได้
นิยมในโอวาทอนุศาสน์ของสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เป็นพระศาสดา ก่อเวราฆาตคิดร้ายใน
แต่ก็ไม่สำเร็จตามมุ่งหมาย ครั้นภายหลังเมื่อกำลังอยู่ที่คยาสีสประเทศอาพาธ
พระองค์เสียอีก
หนัก กลักจิตหวนคิดถึงพระบรมศาสดาอ้อนวอนพวกศิษย์ให้พาไปพระเชตะวัน ยังไม่ทันได้เฝ้า ก็
พอเกิดวิบัติมาตัดชีวิตเสีย ซึ่งพระโบราณจารย์กล่าวว่าต้องแผ่นดินสูบ หากว่าในเวลาสามารถ
เธอไม่เป็นเช่นนั้น ก็น่าจะบรรลุธรรมพิเศษส่วนโลกีย์โลกุตตรโดยควรแก่ปฏิบัติ, นี่มากลับจิตได้
ในเวลาไม่เป็นโอกาส จึงได้คลาดจากประโยชน์คุณที่จะควรได้ควรถึงเช่นนี้ แม้ในคัมภีร์ชาดก
ท่านก็ได้ยกข้อนี้ขึ้นแสดงในคาถา
โดยความเป็นภาษิตของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ในเมืองตักสิลา
ผู้สอนมาณพ ๕๐ ให้เล่าเรียนศิลปะศาสตร์ มาณพผู้หนึ่งรับใช้ไปหาฟืนไปเขื่อนเสีย ครั้นเพลา
เย็นเก็บอะไรไม่ทัน หักได้ไม้ทุ่มสดมา, อาจารย์ยกเรื่องนี้เป็นอุปัตติเหตุแล้ว และกล่าวติให้เป็น
คติของมาณพทั้งปวงว่า
โย ปุพเพ กรณียาน
วรุณกฏฐ์ ภญโชว
ปุจฉา โส กาตุมิจฺฉติ
ส ปจฺฉา อนุตปฺปติ (๒)
(๑) ขุ. ชา เอก ๒๗/๓.
(๒) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๒๓.