พระพุทธโฆษาจารย์ และเรื่องราวของพระเทวทัตต์ มงคลวิเสสกถา หน้า 328
หน้าที่ 328 / 390

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจเรื่องราวของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และบทเรียนจากความขัดแย้งกับพระเทวทัตต์ ผ่านการวิเคราะห์และแนวทางการจัดการปัญหาภายในสงฆ์ พระองค์ได้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการตัดรอนความผิดปกติ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบริษัทสงฆ์ และเพื่อไม่ให้เกิดมัวหมองกับพระธรรมวินัยโดยรวม โดยการถือว่าความขัดแย้งนี้มีความสำคัญกับทั้งพระธรรมและสังคม.

หัวข้อประเด็น

-บทเรียนจากพระพุทธโฆษาจารย์
-การจัดการปัญหาในสงฆ์
-ความสำคัญของธรรมะ
-การปฏิบัติต่อพระเทวทัตต์
-การรักษาความสงบในสงฆ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) อีกเรื่องหนึ่ง ๓๓๓ พระองค์ให้สงฆ์ทำปัตตนิกกุชชนกรรม คือคว่ำบาตรแก่เจ้าวัฑฒลิจฉวีผู้ อันภิกษุเมตติยะแลภุมมชะเลี้ยงสอนให้ใส่ความพระทัพพมัลลบุตรว่า ทำชู้ด้วยภรรยาของเธอ เรื่องนี้ถ้าพระองค์ไม่โปรดให้นิเคราะห์เสีย คฤหัสถ์ชนผู้เป็นพาล ก็จะสำคัญเห็นพวกภิกษุเป็นผู้ อันตนจะพึงพวกภิกษุเป็นผู้อันตนจะพึงรุกรานได้ตามอำเภอใจภิกษุทั้งหลายแม้หาความผิดมิได้ ก็ จะต้องเสื่อมเสียเดือดร้อนอยู่ร่ำไป แลชื่อว่าไม่ทรงคุ้มเกรงสหธรรมิกบริษัทซึ่งนับเป็นอันโตชน ปล่อยให้คนภายนอกข่มเหงเปล่า ๆ ปล้ำ ๆ ด้วยเหตุนี้ จึงต้องโปรดให้นิเคราะห์ไว้เป็น เยี่ยงอย่าง แต่นิเคราะห์ทั้งสองวิธีนี้ เมื่อผู้ถูกนิเคราะห์ รู้สำนึกกลับทำดี ก็โปรดให้ระงับ คือ ถอนประณาม แลทำพิธีหงายบาตร ไม่เช่นนั้นจะกลับเป็นการอาฆาตมาดร้ายต่อกันไป ๓ อีกเรื่องหนึ่ง โปรดให้ทำปกาศนียกรรมแก่พระเทวทัตต์ คือ ประกาศตัดไม่รับรองความ ประพฤติ มีเรื่องเล่าในคัมภีร์สังฆเภทขันธกะว่า เมื่อครั้งเสด็จประทับ ณ กรุงราชคฤห์ คราว หนึ่งกำลังทรงแสดงธรรมในท่ามกลางบริษัทใหญ่ พร้อมทั้งพระราชา พระเทวทัตต์เข้าไปกราบทูล ขอรับเป็นผู้ปกครองภิกษุสงฆ์แทนพระองค์ ขอให้ทรงมอบภิกษุสงฆ์แก่ตน อ้างเหตุว่าพระองค์ ทรงพระชราแล้ว ชอบแต่จะขวนขวายน้อย ประกอบทิฏฐธรรมสุขวิหารอยู่ พระองค์ไม่โปรดแล ทรงห้ามโดยละม่อมถึง ๒ ครั้งพระเทวทัตต์ยังขึ้นกราบทูลอีกเป็นครั้งที่ ๓ ซึ่งเป็นครั้งเด็ดขาดจึง ตรัสเป็นอัปปสาทโวหารรุกรานพระเทวทัตต์ว่า แต่สารีบุตรแลโมคคัลลานะเรายังไม่ยอมมอบ ภิกษุสงฆ์ให้ทำไมเราจึงจะมามอบให้เธอซึ่งเป็นคนเหมือนศพ แลเป็นคนกินเขฬะเก่า การที่ ตรัสรุกรานแรงถึงเช่นนี้ เพื่อจะตัดการเซ้าซี้ของพระเทวทัตต์ เพราะไม่ใช่วิสัยที่พระตถาคตจะ ตรัสยิ่งกว่าครั้งที่ อนึ่ง ทรงหยั่งทราบความดื้อดึงแข้งกระด้างแห่งพระเทวทัตต์ ซึ่งไม่มีทางจะ เอาไว้อยู่ได้ ก็ต้องปล่อยไปตามการณ์, พระเทวทัตต์เมื่อถูกรุกรานเช่นนั้นก็แสดงอาการโกรธ แค้นเอาฆาตทูลลาไป พระองค์ทรงเห็นว่า พระเทวทัตต์เริ่มเปลี่ยนปกติท่วงที่จะคิดการใหญ่ ที่ไหนจะสงบแต่เพียงเท่านี้ จะทรงนิ่งไว้ ถ้าพระเทวทัตต์ไปทำอะไรเสียหายร้ายแรงเข้า ก็จะเป็น ข้อมัวหมองพลอยมาถึงพระองค์แลหมู่คณะตลอดถึงพระธรรมวินัย มีทางเสียหายมากกว่าดี จำ จะทำวิธีตัดรอนพระเทวทัตต์เสียจาก พุทธนิสัย ธรรมนิสัย แลสังฆนิสัย ต่อนั้นไปเธอจะทำอะไร ผิด ก็จะได้ไม่พลอยหมองติดมาถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เหมือนตัดนิ้วอันอสรพิษกัด เสียนิ้วหนึ่ง รักษาอวัยวะอื่น ๆ รวมทั้งชีวิตไว้ ไม่เป็นทางที่ผู้มีปัญญาจะติฉินว่าทำเกินสมควร ดังนี้ ๓
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More