ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร)
๒๗๐
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ก็มีปรากฏดังนี้ว่า อตฺตสมมาปณิธิ
ความตั้งตนไว้ชอบ
เป็นคุณสมบัติอันนิยมว่าดีทั้งในทางโลกและทางธรรม จึงนับได้ว่าเป็นข้อที่
อาจแลเห็นได้ โดยไม่รู้จะต้องพิจารณาให้ลึกซึ่งมาก ผู้ที่ควรสรรเสริญว่า ผู้มีอาชีพอย่างใด
ประกอบกิจการให้เป็นประโยชน์ดีที่สุดสำหรับอาชีพอย่างนั้น นับว่า ควรชมเชยยกย่องว่า ตั้งตน
ไว้ชอบ นอกจากนี้ควรเป็นผู้รู้จักประมาณ รู้จักกาลเวลาและที่อันควรประกอบกิจการให้เหมาะมุ่ง
ทำการงานให้เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองแลครอบครัวทั้งแก่เพื่อนบ้าน ทั้งแก่ชาติ ศาสนา แล
พระมหากษัตริย์ และข้อสำคัญคือไม่ใฝ่สูงให้เกินศักดิ์ ผู้ที่ตั้งตนอยู่เช่นนี้ เรียกว่าตั้งตนไว้ชอบ
ในทางธรรม กล่าวโดยย่อ ก็คือเป็นผู้ที่อยู่ในศีลในธรรม เว้นจากทุจริตในไตรทวาร ประพฤติ
สุจริตในไตรทวาน เว้นจากการกระทำบาป ใฝ่ใจกระทำบุญอยู่เสมอ อนึ่ง ผู้ที่ควรเรียกได้ว่าตั้ง
ตนไว้ในที่ชอบ ควรเป็นผู้ประกอบด้วยความสัมมาคารวะต่อบุคคลควรเคารพประการหนึ่ง ความ
ไม่จองหองประการหนึ่ง ความยินดีด้วยของอันมีอยู่ ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่นประการหนึ่ง ความ
เป็นผู้รู้อุปการะอันชนอื่นทำแล้วแก่ตนประการหนึ่ง ความฟังธรรมโดยกาลประการหนึ่ง ธรรมทั้ง
๕ ประการนี้ เป็นของสำคัญสำหรับผู้ที่ตั้งใจจะประพฤติดีอยู่เป็นนิตย์ แลถ้าผู้ใดตั้งจิตยึดถือธรรม
ทั้ง ๕ ประการนี้ไว้ได้ ก็ควรเรียกได้ว่า เป็นผู้ที่ตั้งตนไว้ชอบ ดังนี้ เมื่อสมเด็จบรมบพิตรพระ
ราชสมภารเจ้า ทรงทราบด้วยกำลังพระปรีชาญาณว่า พระราชกุศลสมภารบุญญาธิการกิจ ซึ่ง
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าได้ทรงบำเพ็ญไว้ในปางก่อนมาเพิ่มพูนศุภผลากรวิบากสมับต
อันยิ่งใหญ่ฉะนี้แล้ว ทรงพระอุตสาหะพิริยภาพเสด็จสถิตมั่นในพระราชธรรม อันเป็นเหตุเจริญ
พระเกียรติยศเดชานุภาพ เป็นที่ร่มเย็นของพระบรมวงศานุวงศ์ข้าทูลละอองธุลีพระบาท แลทวย
ราษฎร์ข้าขอบขันธสีมา ต้องด้วยพระพุทธภาษิตนิพนธ์คาถาสรรเสริญว่า
ยถา หิ ปพฺพโต เสโล
อรญฺญสม พฺรหาวเน
เป็นต้น ความว่า ภูเขาศิลามีอยู่ในป่าใหญ่ หมู่ไม้ได้อาศัยภูเขานั้น เจริญงอกงามใหญ่โต อยู่ใน
อรัญฉันใด
ตเถว สีลสมฺปนฺนํ
สุทธ์ กุลปุตต์ อิธ
។
บุตรภรรยาญาติพวกพ้องมิตรสหาย แลชนนิกายผู้ซึ่งเลี้ยงชีพ ย่อมอาศัยกุลบุตร ผู้มีศรรัทธา ถึง
พร้อมด้วยศีล แลเจริญด้วยคุณสมบัติแลวิบากสมบัติฉันนั้น