ข้อความต้นฉบับในหน้า
เรื่องน้ำไว้ ทำให้เห็นแนวพระราชดำริในเรื่องน้ำได้ชัดแจนว่าน้ำมีความสำคัญต่อความอยู่รอยของ
มนุษย์ของชาติบ้านเมืองมาก
ในปัจจุบันเกิดความไม่สมดุลระหว่างปริมาณน้ำกับผู้ใช้น้ำ
กล่าวคือในขณะที่จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการโยกย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยเข้ามาแออัด
อยู่ในเขตชุมชน เช่นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ ๆ แต่ปริมาณใช้ปกติกลับลดลง อันมีสาเหตุมา
จากการทำลายบริเวณพื้นที่รับน้ำ คือป่าไม้ที่เป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารและยังมีการทำให้เกิด
ภาวะเน่าเสียในบริเวณแหล่งน้ำ
นับว่าเป็น
เช่นแม่น้ำลำคลองซึ่งมีมาจากเหตุหลายประการ
ปัญหายิ่งใหญ่ ได้ทรงเป็นห่วงเรื่องน้ำเสียเป็นพิศอย่างยิ่งทรงพยายามที่จะบรรเทาภาวะน้ำเสียให้
กลับเป็นน้ำดี ได้ทรงคิดค้นแบบเครื่องกลพระราชทานให้กรมชลประทานทดลองประดิษฐ์ขึ้นรวม
มี ๓ แบบ ได้ทรงมีพระราชดำริกับเจ้าหน้าที่กรมชลประทานให้พิจารณาหาวิธีพัฒนาเครื่องกล
ดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยให้สามารถกระจายฟองอากาศในน้ำให้มากขึ้น อันจะช่วย
บรรเทาภาวะน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถได้
เสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต แปรพระราชฐานไป
ประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวชน์ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน
๒๕๓๓ เพื่อทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการทอดพระเนตรผลงาน ความก้าวหน้าของโครงการ
อันเนื่องมาจากพระราชดำริกับพระราชกรณียกิจอื่น ๆ และทรงเยี่ยมราษฎร์ในเขตจังหวัดภาคใต้
ทั้งสองพระองค์ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งได้เสด็จพระ
ราชดำเนินไปทรงปฏิบัติสนองพระราชกรณียกิจก่อนแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ
และได้เสด็จ
พระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติสนองอีก ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับจากการแปรพระราชฐานสู่
กรุงเทพมหานครในวันที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓
ในการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานในประทับแรมในทักษิณราชนิเวศน์ กรงน
ได้ทรงปฏิบัติพระราชดกรณียกิจต่าง ๆ ในเขตจังหวัดภาคใต้เป็นอันมาก ได้เสด็จพระราชดำเนิน
เยี่ยมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ซึ่งได้ดำเนินงานอยู่แล้วในที่นั้น ๆ เพื่อช่วย
การประกอบอาชีพ เพื่อความเป็นอยู่ดีของประชาชนทั้งปวง ได้พระราชทานพระราชดำริต่าง ๆ
เพื่อปรับปรุงให้ได้ผลดียิ่งขึ้น เพื่อความสุขยิ่งขึ้นแก่ประชาชนยังให้เกิดความปลาบปลื้มยินดี เพิ่ม
ความจงรักภักดีในพระประชาชนทั่วไป
สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
๑๘๒