ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
๕๐
พระองค์ประทานโอวาทไว้ ให้มารดาบิดากับบุตรธิดา อาจารย์กับศิษย์ สามีกับภรรยาญาติมิตร
กับญาติมิตร เจ้ากับข้า สมณพราหมณ์กับคฤหัสถ์ รักใคร่นับถือกันตามฉันที่เกี่ยวกันอย่างไร และ
ให้อนุเคราะห์กันตามหน้าที่และอนุศาสน์ ให้แผ่เมตตาทั่วไปไม่เจาะจงเฉพาะบุคคลนั้น เช่นตรัส
สอนบรรพชิตให้ตั้งจิตเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่เพื่อนสพรหมจารี ที่ยังมิได้มาก็ขอให้มาสู่อาวาส ที่มาแล้วก็
ขอให้อยู่เป็นผาสุก
ตลอดถึงให้ทำตนเองเป็นอุปมา ในการรักสุขเกลียดทุกข์ แล้วละเว้นจาก
เบียดเบียนล้างผลาญกันและกันเสีย พระองค์ประทานธรรมชักนำให้ตั้งอยู่ในเมตตาทั้ง ๒ สถาน
ตามกาลเวลา.
ปลอดโปร่งหาที่ติดขัดมิได้
เมื่อพรรณนาถึงผล เมตตานั้น ย่อมให้สำเร็จประโยชน์แก่ตนและผู้อื่นทั้ง ๒ ฝ่าย ผู้
ประกอบด้วยเมตตาย่อมอยู่เป็นสุขสบายไม่ต้องกระทบกระทั่งด้วยอาฆาตพยาบาทวิหิงสา มีจิต
ย่อมไกลจากอันตรายแต่ปฏิปักษ์ ทั้งจะเป็นที่รักใคร่นับถือของชน
ทั้งหลาย, ฝ่ายผู้อื่นได้รับอนุเคราะห์ด้วยกำลังเมตตาจิตนั้นก็จะได้ประสบซึ่งวัตถุนั้นบ้าง ซึ่งตนไม่
มีทางจะหาได้ตามลำพัง แต่นั้นก็จะหวังดีตอบแก่ท่านผู้อุปภัมถ์ สมด้วยคำพระเตมียบรมโพธิสัตว์
เจ้าว่า ปูชโก ลภเต ปูช์ ชนผู้บูชาย่อมได้รับบูชาตอบ วนฺทโก ปฏิวันทน์ ชนผู้ไหว้ย่อมได้
รับไหว้ตอบ ดังนี้ แต่ความต่างแห่งผล ก็ย่อมจะมีตามประเภทของเมตตานั้นเอง เมตตาที่เป็นไป
โดยเจาะจงย่อมมีกำลังกล้า แต่ว่ามีเขตแคบ ส่วนเมตตาทั่วไปไม่เฉพาะบุคคลสำเร็จผลกว้าง แต่มี
กำลังเพลา เหมือนเชือกสันเหนี่ยว ได้มั่นกว่าเชือกยาว แต่สาวไปไม่ถึงไหน แต่ทั้ง ๒ นั้น ก็ควร
วิญญูผู้รู้จักอำนาจประโยชน์ จะพึงให้เป็นไปตามโอกาส
สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า มีพระราชอัธยาศัยเป็นที่มานอนแห่งพระเมตตา
ทรงชุบเลี้ยงพระราชวงศานุวงศ์และเสวกามาตย์ให้เจริญด้วยอิสริยศักดิ์ศฤงคารบริวาร ทางอภิบาล
ประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุขปราศจากอันตราย
ได้ช่องขวนขวายในกิจการเป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพ
โดยสะดวกไม่ติดขัด เจริญด้วยโภคสมบัติโดยคุณานุรูปของบุคคลนั้น ๆ จะทรงพระราชดำริสิ่งใดก็
ให้เป็นไปโดยกำลังพระเมตตา เป็นต้นว่า ออกพระราชบัญญัติเพื่อเลิกทาส ด้วยพระราชประสงค์
จะให้ข้าขอบขัณฑสีมาได้เป็นไททั่วหน้า ทรงจัดตั้งทั้งบำรุงการศึกษาขึ้นในพระราชอาณาจักร
เพื่อให้กุลบุตรได้ความรู้ความสามารจะได้เป็นราษฎรที่ดี และมีความจงรักในชาติภูมิของตน และ
ยังทรงพระอารีถึงชนชาวต่างประทเศผู้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระราชทานธรรมิการักขา
เพื่อได้อยู่เป็นผาสุก
(๑) ขุ. ชา. มหา ๒๔/๑๕๔.