ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
๔๐
บัญญัติไว้แล้วอย่างไร และให้พวกวัชซีเคารพนับถือท่านที่เป็นผู้ใหญ่กว่า อย่าฉุดคร่าภรรยาและ
กุมารีในตระกูลของเขาด้วยพลการมาเป็นภรรยา
และเจดียสถานเหล่าใดซึ่งเป็นที่นับถือของชาว
วัชชี อันมีในภายในและภายนอกนคร ให้สักการะเคารพนับถือบูชาเจดียสถานเหล่านั้น อย่าตัด
ธรรมิกพลีที่เคยทำอยู่แล้วให้เสื่อมสูญ พระพุทธภาษิต ๒ ข้อนี้ เป็นเครื่องสาธกให้เห็นว่า
สมเด็จพระบรมศาสดาจารย์ทรงสั่งสอนประชุมชนที่เป็นหมู่เหล่า ต่างให้รักษาประโยชน์ของกัน
และกันอย่าง บัณฑิตพึงสันนิษฐานโดยนัยนี้แล้ว รู้จักผ่อนผันประพฤติตามสมควรแก่ชุมชนที่ตน
เนื่องอยู่นั้น สมานัตตตา ความเป็นผู้มีตนสม่ำเสมอในตัปปริยาปันนธรรม คือธรรมของชนผู้
เนื่องในหมู่นั้น ๆ จึงให้เป็นไปในชนที่นับเนื่องเป็นหมู่เดียวกันโดยสมควร ด้วยประการฉะนี้
คุณข้อนี้ ย่อมให้เกิดผล คือ พหุปปิยตา ความเป็นที่รักของชนเป็นอันมาก, ผลนี้
ย่อมมีประโยชน์แก่ชนผู้นับเนื่องในหมู่ทั่วกันไป ไม่นิยมชั้น ผู้น้อยเป็นที่รักของท่านผู้ใหญ่ก็จะ
ได้รับความอุปถัมภ์ค้ำชู ชนผู้เสมอกัน ก็ต่างจะได้อาศัยกัน ท่านผู้ใหญ่เล่า ก็จะได้ผู้น้อยไว้เป็น
กำลัง เมื่อกิจเกิดขึ้นก็จะตั้งใจทำให้สำเร็จด้วยความภักดีสามัคคี คือความพร้อมเพรียงด้วยกย
และจิตก็ย่อมเป็นไป เพราะความรักใคร่ในกันเป็นที่ตั้ง เมื่อเกิดขึ้นในหมู่ใด ก็ยังความเจริญให้
เป็นไปในหมู่นั้น สมด้วยพจนประพันธ์ราชสุภาษิตว่า
สพฺเพส์ สงฺฆภูตานํ
สามคฺคี วุฑฒิสาธิกา
สามัคคีย่อมยังความเจริญให้สำเร็จแก่ชนทั้งหลาย ผู้เป็นหมู่กันทุกเหล่า ดังนี้
เมื่อกล่าวโดยสังเขป ผู้ใดเป็นที่รักของขนเป็นอันมาก ผู้นั้นย่อมหวังความเจริญได้ คงไม่มี
ความเสื่อมทราบ แม้สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าก็ได้ตรัสแกมหานามลิจฉวี แสดงกิจของผู้ดำรง
ฆราวาสจะพึงทำเพื่อผลนี้ ในอปริหานิยธรรมสูตรปัญจกนิบาต อังคุตตรนิกายสรุปความว่า
กุลบุตรผู้ใดผู้หนึ่ง ตั้งต้นแต่พระมหากษัตริย์เจ้า ตลอดลงไปถึงอธิบดี เฉพาะตระกูลมาสักการะ
เกื้อกูลมารดาบิดาจำพวกหนึ่ง บุตรภรรยาทาสกรรมกรซึ่งนับว่าอันโตชนจำพวกหนึ่ง ชาวนา
เพื่อนบ้านลูกค้าซึ่งนับว่า พาหิรชนจำพวกหนึ่ง เทวดาผู้รับพลีกรรมคือ อารักขเทวดาและวัตถุ
เทวดาจำพวกหนึ่ง สมณพราหมณ์จำพวกหนึ่ง ด้วยโภคทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบธรรม เป็นผลแห่ง
ความหมั่น เทวดามนุษย์ ๕ จำพวกนั้น ได้รับสักการะเกื้อกูลแล้ว ก็ย่อมอนุเคราะห์ด้วยไมตรีจิต
คิดความเจริญให้ กุลบุตรนั้นเป็นอันหวังวุฒิได้ ไม่พึงมีความเสื่อมทราบเลย. แม้พระเจ้าจักรพรรดิ
ราชผู้ปกครองปฐพีมณฑล มีสมุทรสาคร ๔ เป็นขอบเขต ก็ยังต้องทรงบำเพ็ญจักรวรรดิวัตร ยึด
เหนี่ยวน้ำใจราชบริษัทให้นิยมใน