ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร)
២៨២
โภคทรัพย์ที่หามาได้โดยชอบธรรม เป็นผลแห่งความหมั่น เทวดามนุษย์ ๕ จำพวกนั้น ได้รับ
สักการะเกื้อกูลแล้ว ก็ย่อมอนุเคราะห์ด้วยไมตรีจิต คิดความเจริญให้ กุลบุตรนั้นเป็นอันหวังวุฒิ
ได้ไม่พึงมีความเสื่อมทรามเลย แม้พระเจ้าพรรดิราช ผู้ปกครองปฐพีมณฑลมีสมุทรสาคร ๔
เป็นขอบเขต ก็ยังต้องทรงบำเพ็ญจักรวัติวัตร ยึดเหนี่ยวน้ำใจราชบริษัทให้นิยมในพระบารมี ข้อ
นี้ย่อมให้สำเร็จผล คือปกครองได้โดยธรรม ไม่ต้องใช้อาชญาเคี่ยวเข็ญ, ความจงรักเป็นพวลเหตุ
ชักนำให้พรักพร้อมเป็นสมานฉันท์ เพื่อต่อสู้ป้องกันบำรุงรักษา จะรับพระราชทานชักอลื่นจิตต
ชาดกในทุกนิบาตมาสาธกพอเป็นอุทาหรณ์ ความสังเขปว่า อตีเต พาราณสีย พฺรหฺมทตเต
รชช์ กาเรนเต ในอดีตกาล พระเจ้าพรหมทัตต์ เสวยราชสมบัติ ในกรุงพาราณสี พระองค์ได้
พลายสำคัญพญาเศวตกุญชรเป็นราชพาหนะเชือกหนึ่ง แผ่พระเกียรติไปในสกลชมพูทวีป
จำเนียรกาลล่วงไป พระอัครมเหสีทรงพระครรภ์ยังไม่ทันประสูติ พระเจ้าพาราณสีเสด็จทิวงคต
ข่าวปรากฏทราบไปถึงพระเจ้าโกศลราช ผู้มีรัชสีมาติดต่อกันกับกาสิกรัฐ ท้าวเธอทรงเห็นราช
สมบัติว่างยังหาผู้เป็นเจ้าของมิได้ เป็นท่วงที่อยู่ ก็ยกมหาพยุกแสนยากรมาล้อมพระนคร ชาว
พระนคร ปิดทวารรักษาเป็นกวดขัน ในเวลานั้นพระราชเทวีประสูติพระราชโอรส ทรงนามว่าอ
ลีนจิตตกุมาร เหตุทำประชาชนให้ชื่นบานหายย่อท้อพรักพร้อมกันปล่อยพญามงคลหัสดี ออกต่อ
รบด้วยปัจจามิตรไพรีให้ปราชัย จับพระเจ้าโกศลราชได้ทั้งเป็นนำมา เป็นเชลยแล้วปล่อยไป แผ่
พระเดชานุภาพของพระราชกุมารไปในสกลชมพูทวีป ไม่มีศัตรูผู้อื่นมาสามารถย่ำยี แลพระราช
กุมารก็ได้รับอภิเษกเป็นพระเจ้าพาราณสีแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ พระชนมายุได้ ๗ พรรษาดำรง
ราชย์โดยธรรมเป็นผาสุกตลอดชนมชีพ, สตฺถา อิม อตีต์ อาหริตวา สมเด็จพระบรมศาสดา
ทรงชักอดีตนิทานนี้มาตรัสแล้ว ประทานพระบรมพุทโธวาทไว้แก่ภิกษุสงฆ์ว่า
อลื่นจิตต์ นิสสาย
โกสล์ เสนาสนฺตุฏฺฐิ
ปหฏฐา มหติ จมู
ชีวคดาห์ อคาหยิ
។
พยุหแสนยากรหมู่ใหญ่ อาศัยอลื่นจิตตกุมาร ได้ความชื่นบานยินดีแล้ว ปล่อยพญาคชสารให้จับ
พระเจ้าโกศลราช ผู้ไม่เต็มพระราชประสงค์เพียงด้วยราชสมบัติของพระองค์เอง ได้ทั้งเป็น
เอว์ นิสสยสมฺปนฺโน
ภาวย กุสล ธมุม
ภิกฺขุ อารทฺธวิริโย
โยคกเขมสุส ปตฺติยา