ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๔ - มังคลาจัดที่ปูนี้น่าเปล ลูก ๒ - หน้า ๔๑
จึง (เหาะ) ไปทางออกแล้ว ปริพานในบรรพศาลาของตน
พวกมนุษย์ในโครานรู้ (ว่า) ท่านไม่มา คิดว่า "ความไม่อาสะอะไร ๆ
จึงพากันไปในที่นี้เห็นท่านปริพานแล้วต่างก็ร่ำร้องรำ
บูรณ์ชั่วแม่น้ำกัน จำท่านได้ในที่นี่ จึงกล่าวว่า " ข้าเจ้เมื่อจะทดลอง
ศิลปะของตน จึงประหารท่านผู้นี้" พวกมนุษย์ได้ดั่งนั้น จึงช่วย
กันทุบเขาให้ตายแล้ว เขาไหม้อยู่ในเวที จนแผ่นดินหันขึ้นได้
ประมาณ โยชน์หนึ่ง แล้วได้เป็นสัญลักษณ์ที่บอกฤๅกู
ผลแห่งกรรม, ศรีษะของเปรตนั้น(สูง) ๓ วาเศษ ค้อนเหล็กกคนหม่น
อันไฟติดทั่ว ลูกโซ่แล้ว กระน่ำลงบนราหมณ์ของเขาแล้วทำลาย
ศรีษะ, ศีรษะที่แตกแล้ว ๆ กลับตั้งขึ้นไปอีก.
เรื่องสัญลักษณ์เปรต มาในพจนวรรค ธรรมบท
[๒๕๕] อีกประการหนึ่ง ในปรณีทังหลาย มีสูตรว่าด้วยกุลิกา
เป็นต้น แม้ช่างก า ท่านก็เรียกว่า "ผู้มีศิลปะ" อย่างนี้คือ
"ช่างอย่าง ๑ ช่างอัด ๑ ช่างกลบ ๑
ช่างหนังปีคำรับ ๕ เรียกว่าช่าง ผู้มีศิลปะ"
แท้จริง ช่างอย่างเป็นต้น ท่านเรียกช่าง เพราะทำ คือสร้างสิ่ง
ก่อสร้างมีการงานของช่างกานเป็นต้น และเรียกว่าผู้มีศิลปะ เพราะ
คนเหล่านี้มีศิลปะ เพราะฉะนั้น แม้การงานของช่างกาจึงชื่อศิลปะ.
จริงอยู่ ศิลปะแม้นั้น ก็เป็นนมด เพราะนำมาซึ่งประโยชน์ ในข้อนั้น
มีเรื่องหลานนี้ (เป็นอุทาหรณ์).