วรรณกรรมและศิลปะในพระพุทธศาสนา มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม 2 หน้า 41
หน้าที่ 41 / 356

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างศิลปะและพระพุทธศาสนา โดยเริ่มจากการเล่าถึงเหตุการณ์ประหารในเวที และความหมายที่ลึกซึ้งของศิลปะในชีวิตมนุษย์ ที่แม้จะมีการสร้างสิ่งของต่างๆ ก็ถือว่าเป็นศิลปะ นอกจากนี้ยังมีการอ้างอิงถึงพจนวรรค ธรรมบท ที่มีสูตรว่าด้วยกุลิกาและอาชีพช่าง เพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ที่มีคุณค่าในสังคม.

หัวข้อประเด็น

-ศิลปะในพระพุทธศาสนา
-ผลแห่งกรรม
-การประหารในเรื่องราว
-คำนิยามของศิลปะ
-การงานของช่าง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค ๔ - มังคลาจัดที่ปูนี้น่าเปล ลูก ๒ - หน้า ๔๑ จึง (เหาะ) ไปทางออกแล้ว ปริพานในบรรพศาลาของตน พวกมนุษย์ในโครานรู้ (ว่า) ท่านไม่มา คิดว่า "ความไม่อาสะอะไร ๆ จึงพากันไปในที่นี้เห็นท่านปริพานแล้วต่างก็ร่ำร้องรำ บูรณ์ชั่วแม่น้ำกัน จำท่านได้ในที่นี่ จึงกล่าวว่า " ข้าเจ้เมื่อจะทดลอง ศิลปะของตน จึงประหารท่านผู้นี้" พวกมนุษย์ได้ดั่งนั้น จึงช่วย กันทุบเขาให้ตายแล้ว เขาไหม้อยู่ในเวที จนแผ่นดินหันขึ้นได้ ประมาณ โยชน์หนึ่ง แล้วได้เป็นสัญลักษณ์ที่บอกฤๅกู ผลแห่งกรรม, ศรีษะของเปรตนั้น(สูง) ๓ วาเศษ ค้อนเหล็กกคนหม่น อันไฟติดทั่ว ลูกโซ่แล้ว กระน่ำลงบนราหมณ์ของเขาแล้วทำลาย ศรีษะ, ศีรษะที่แตกแล้ว ๆ กลับตั้งขึ้นไปอีก. เรื่องสัญลักษณ์เปรต มาในพจนวรรค ธรรมบท [๒๕๕] อีกประการหนึ่ง ในปรณีทังหลาย มีสูตรว่าด้วยกุลิกา เป็นต้น แม้ช่างก า ท่านก็เรียกว่า "ผู้มีศิลปะ" อย่างนี้คือ "ช่างอย่าง ๑ ช่างอัด ๑ ช่างกลบ ๑ ช่างหนังปีคำรับ ๕ เรียกว่าช่าง ผู้มีศิลปะ" แท้จริง ช่างอย่างเป็นต้น ท่านเรียกช่าง เพราะทำ คือสร้างสิ่ง ก่อสร้างมีการงานของช่างกานเป็นต้น และเรียกว่าผู้มีศิลปะ เพราะ คนเหล่านี้มีศิลปะ เพราะฉะนั้น แม้การงานของช่างกาจึงชื่อศิลปะ. จริงอยู่ ศิลปะแม้นั้น ก็เป็นนมด เพราะนำมาซึ่งประโยชน์ ในข้อนั้น มีเรื่องหลานนี้ (เป็นอุทาหรณ์).
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More