ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๕ - มังคลิจิตที่มีบาเล ลอม ๒ - หน้าที่ ๑๓๗
นรก เหมือนอย่างมีจริญวิญญาณเลย, ภูเขาทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย
ประกอบด้วยมังคลาจิตู เมื่อต้นแต่ตายเพราะกายแตก ย่อมเข้าสู่อบาย ทุคติ วินิบาต นรก ดังนี้.
[มังคลาจิตูห้ามสวรรค์และนรก]
[๒๗๕] อรรถกถาเอกนิบาต อังกจตตูตนิยานนว่า "มังคลาจิตู
บางอย่าง ทั้งห้ามสวรรค์ ทั้งห้ามนรก. บางอย่างห้ามแต่มนรก
อย่างเดียว ไม่ห้ามสวรรค์. บางอย่างไม่ห้ามสวรรค์ ไม่ห้ามนรกเลย. ในมังคลาจิตูเหล่านั้น มังคลาจิตู ๑ อย่างนี้ คือ ออกฤกษ์ฤกษ์
อันถือเอาที่สุดมวิฑูต ๑๐ ห้ามแต่มนรกอย่างเดียว ไม่ห้ามสวรรค์.
สังสกาทิกูรมีวิฑุต ๒๐ ไม่ห้ามสวรรค์ ไม่ห้ามมนรกเลย. ท่าน
อาจารย์ดำรงวิธีนี้แล้ว กล่าวว่าชื่อว่า กิจูโโดยที่สุดนมาหมายเอา
สังสกาทิกูวิธีมีวิฑุต ๒๐ ชื่อว่า สามารถ
เพื่อนามมังคลาจิตูบุคคลไปสวรรค์ ไม่มี, ย่อมให้ลงในนรกโดยส่วนเดียวเท่านั้น
เพราะบาศในพระสูตรว่า "ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลายประกอบ
ด้วยมังคลาจิตู ดังนี้เป็นต้น. เหมือนอย่างว่า ก้อนหินและก้อน
กรวด แม้มีขนาดเท่าหมิ้นดี้เต็ดลิ่งและถั่วรามาต มีบุคคลโยนลงไป
ในน้ำ ชื่อว่าอ่อนขึ้นไม่มี, ย่อมลงไป ณ ภายใต้ใดโดยส่วนเดียว
เท่านั้นนั่นได, มังคลาจิตู โดยที่สุดแม้สังกายูวิธี ชื่อว่ามารถ
เพื่อนำมังคลาจิตูบุคคลไปสวรรค์ ไม่มี, ย่อมให้ลงในอบาย
ทั้งหลาย โดยส่วนเดียวกันนั่นเหมือนกัน."
๑. มโน ปุ. ๑/๕๕.