ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๕ - มั่งคั่งที่เป็นเปล่า เล่ม ๒ - หน้าที่ ๑๔๘
นั่น ท่านก็ได้แสดงโลกวิธีวิธีและโลกูตวิธีวิธีแล้ว
ส่วนในอรรถกถา"ทุนเทศปฐะ" ท่านวันสมเด็จวิเคราะห์ว่าคือ
โลกูตวิธีวิธีเสียแล้ว กล่าวว่ารวิธี ๒ ประกอบออกจากโลกูตระ
วิธีเท่านั้น อย่างว่า "ชื่อว่าวรรณนั้น เป็นโลกูตระมีอยู่
ถึงจริง ถึงอย่างนั้น วรรณนั้น ที่วันจากการพุทธด้วยสามารถ
การสมาทานไม่มี เพราะผู้สมาทานกล่าวว่าว่า "สมาทิยม" ใน
เวลาสมาทานสิบโมงสิบปุ่งนี้ เหตุนี้ วิถีที่สมปูฎด้วยถามว่า-
วรรคกิฏิวัติ จึ่งชื่อว่า วรรณี."
วิถี ๓ ประกอบนั้น พร้อมด้วยวิกากแห่งปิริยะแนวอรมณ์
เป็นต้น จักมีแจ้งในโมงคล่าวว่า "อาร์ติ วิถี ปาปา" นั้นแหละ.
[๒๒๕] กุฏิลกรรมบถตามที่กล่าวไว้ว่าจึงเป็นกายกรรม
วิถีกรรมและในกรรมฝ่ายกุศล เป็นไปในไตรทวาร. ที่ในการใด
บุคคลผู้สมาทาน เมื่อไม่อาจจะกล่าวได้ ย่อมรับเอาสิกาบบนทั้ง ๓
ด้วยมือและศีรษะ (ซึ่งเป็นการยำผนึกให้ได้ว่า "เราอนวัน
ขาดงบาปนิดามา จากอัติทนานา จากกามเมสูอิจฉา" ดังนี้
ในกาลนั้น แม้กรรมเป็นกายกรรม แม้ทวารก็เป็นกายวาร. อันยัง
ในกาลใด ผู้สมาทานทำการเปล่งวาจาอเอกา ในกาลนั้น กรรมเป็น
กายกรรม ส่วนกายเป็นวิถีวาร. อันยัง ในากาลใด ผู้สมาทานไม่
ยงองคัคายและองค์อาจจะให้ไหวแล้ว รับเอาด้วยไอย่างเดียว
ในกาลนั้น กรรมเป็นกายกรรม ส่วนวาทรเป็นบาวาร.
๓. ปรมิตโชติคา ทุกทกปฐวรรณะ ๑๔