ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๑- มังคลิดาฯที่เป็นฉบับ เล่ม ๒ หน้า 92
"ตั้งนิทานอจกขวาในเภสัช ย่อมรักษาศีลไว้ได้ทั้ง ๒ ประการ
จากการขาด ส่วนอัตญ์ปัจจเวกขณะในเภสัชนั้น ย่อมรักษาไว้ได้
เฉพาะปัจจเวกขณะเดียวกัน ปัจจเวกขณะทั้ง ๒ ประการ
ในปัจจเวกขณะก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ถ้ากิเลสมั้งตั้งนิจปัจจเวกขณะ ในฤทธิปัจจเวกขณะแล้วไซร้ แม้จะไม่ทำอัตญ์ปัจจเวกขณะ ก็ครูว.
ถ้าไม่ทำอัตญ์ปัจจเวกขณะ ก็จะทำอัตญ์ปัจจเวกขณะโดยแท้ เพื่อ
ทำสิ้นกิเลส (ปัจจัยสมบัติศีล) ให้บริสุทธิ์ ก็ปฏิบญ์ปฏิเวกขณะ
ซึ่งขาด เพราะเหตุไม่ทำอัตญ์ปัจจเวกขณะในเภสัช ย่อมบริสุทธิ์
ได้ด้วยการแสดง (อาบัติ). ถ้ากิเลสมั้งทำปัจจเวกขณะแม่อะไร ๙ ใน
ฤทธิปัจจเวกขณะนั้น ก็อ่อนขาดโดยนัยที่กล่าวแล้ว และ
กิเลสนัน ชื่อว่าตั้งอยู่ในฐานบริการนี้"
[๘๕] กิเลสมั้งผู้เป็นอุปากนิยเดียวย-
ส่งมรรคขิตสามเณร.
ก็อุปนียะสงครามขิตสามเณรนั้น พิจารณาโดยชอบแล้วซิฉัน
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงกล่าวว่า
"อุปมาณะกลกล่าวข้าเจ้า ผู้ฉันข้าวสาลีอ่อน
เย็นสนิทว่า 'สามเณร เธออย่างไม่สำรวมแล้ว
ยังลีนของตนให้ไหมเลย' ข้าเจ้าfังกคำของ
พระอุปชญาณะแล้ว ได้ความสงบในครั้งนั้น
นั่งเหนืออาสนะอันเดียว ได้บรรลุพระอรหัต
แล้ว ข้าเจ้านั้น มีความดำริบริบูรณ์"