ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๔ - มั่งคิดว่ามันเปล่า เล่ม ๒ - หน้าที่ 74
ด้วยสามารถถกสนิท กาลนี้และ ชื่อว่ากาลควรทีกดูแลครูป. บาทราคาว่า ปฏิมิสวา มายติ ความว่า ภูกุทั้งหลาย สนับจ้องชื่
ปฏิมิสะของคุณแพงใบกาลไม่ควร เสื้อจากโคจร (คืออาหาร)
ของตนแล้วชมเซาอยู่ ฉันใด ภูกุเพ้งครูปในกาลไม่ควร ด้วย
อำนาจคุณมินิ เสื้อจากโคจรมีสติปัญญาเป็นต้นแล้วชมเซา คือ
ยอดลำภง ทั้งในทิฐิธรรม ทั้งในสัมมารทะ ฉันนั้น.
เรื่องสนุ่จึงออกชื่อดูมึงสะ จบ.
[๒๗๒] เพราะฉนั้น ชื่อว่ากาลไม่ควรอธิษฐาน มีรูปเป็นต้นไว้ ด้วยสามารถการถือโดยอนุญฌชนะ และการถือโดย
นิมิต ถือเอาแต่รามณ์ ตามที่ได้เห็น ได้สัมบัด ได้นรามและเท่านั้น
พึงเป็นดวงพระมหากัสสะระผู้มาเพื่ออุปฏิสุขน ที่อยู่ในเจดีย์-
บรรพต.
[เรื่องพระมหากัสสะระ]
คลังได้ดิบมา พระมหากัสสะระนั้น ได้เป็นผู้เจริญอัฏฐิ-
กัมม์ฐานโดยปกติ วันหนึ่ง ท่านได้ไปจากเจดีย์บรรพต สู่อนารามี
เพื่อบิณฑบาต. ครั้งนั้น หญิงคนหนึ่งจะละกะกับสามีแล้ว เดิน
ไปจากอนุราชบูรณ์เรือนอญตเตเป็นอสงวัตพบพระเฑระในระหว่างทาง
มีจิตปลาล จึงหัวเราะกากใหญ่ พระเฑระกำลังเดินไปด้วย
มนัสก็รำคำอัฏฐิของมุตฏฐา นักว่า "นั่นเสียงอะไร" แล้วแลดู
ไปจากกะแสเสียงที่ว่าระนะ เพราะมนัสก็รำที่เป็นส่วนเนื้อขั้น มี
เสียงเป็นหนาม (ข้าศึก) กลับไปอัฏฐิสัญญาในพระเฑระกลัวฟัง