ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๑ - มังคลัตถทีนี้นับเปนเล่ม ๒ - หน้าที่ 158
วิ่งค้นแห่งสิกขาบณฑนั้นเจตนาจ่อมได้ชื่อว่า วาจา : ด้วยเหตุนัน ใน
อรรคถาแห่งสิกขาบณฑนัน ท่านจึงกล่าวว่า "เจตนาทีนี้เนื่องใน
มิจฉาวาจา อันยังค้างคำใดให้จ้งขึ้น ชื่อว่า วาจา."
แมในภูมิฏสถานสิกขาบันนั้น ท่านกล่าวว่า "บุคคลยอดกล่าว
ด้วยเจตนานั้น เหตุนัน เจตนานั่น ชื่อว่า วาจา, ได้แก่ เจตนาอัน
ยังอ้อยคำให้ตั้งขึ้น."
วาจาสึกที่เป็นบรรยาสนะแ ย่อมเป็นไปในเจตนา. ด้วยเหตุ
นัน ในภูมิภรมะชาลสูตร ท่านจึงกล่าวว่า "เจตนาอือว่า ปิสุณ-
วาา เพราะอธิวิเคราะห์ว่า บุคคลยอดกล่าวคำส่อเสียดด้วย
เจตานั้น."
บรรดาบทหล่านั้น บทว่า วตติ แปลว่า ย่อมกล่าว. ด้วยเหตุ
นัน ในสัททนีติปิณฑ์ พระอัครวาจารย์ จึงกล่าวไว้ว่า "วร ธาดู
เป็นไปในทางวาจาอันเป็นเครื่องให้เข้าใจ (ความ), บทกริยาว่า วตติ
วตติ วจติ วจิ จังนี้เป็นตน เป็นกัตดวาจา. ในบทหล่านนั้น บท
ว่า วตติ แปลว่า ย่อมกล่าว, และบทว่า วตติ นี้ เป็นอายตมบทน."
วาจาสึกที่เป็นบรรยาสนานั้น พระผู้พระภาคไม่ทรงประสงค์ใน
มงคลนี้.
ส่วนวาจาสึกที่เป็นบรรยาสนานั้น ย่อมเป็นไปในเสียง, วาจา
สึกที่เป็นบรรยาสนานั้น ทรงประสงค์ในมงคลนี้ ขึ้นแล้วได้
กล่าวไว้ในหนบทหลังแล้วแล.
[๒๖๗] พระอรรถกาจารย์หลายกล่าวว่าอาาาา