ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๑ - มังกรคิดที่นี่เป็นปล เล่ม ๒ - หน้า 131
สนุติ คือ ย่อมพิจารณาความของคัมภีร์นี้. คำว่า เตส เป็นต้น
เป็นคำแสดงอาการคือการพิจารณา. สองบอกว่า ตุตม อารมณ์บน
ความว่า ในอารมณ์แห่งสติที่ขึ้นไปโดยชยันต์เป็นต้นว่า "เมื่อบุคคล ตัวอยู่ บาปไม่ชื่ออ้วนบุคคลคำ" อันแสดงความไม่ผลแห่งกรรม
ตามที่เจ้าลักษณ์นั้นกำหนดไว้แล้ว. บทว่า มิจฉาทิฐิ ได้แก่ ตันหา
ที่สรรค์ด้วยลักษณะนั้น อันมิจฉาทิฐิ กำไปโดยชอบ อันมิจฉา-
บาละสนับสนุน ย่อมธรรมมิใช่ธรรมมีหนุเป็นสภาพ ว่าเป็น
ธรรมเหตุนี้เป็นสภาพ ได้ชื่อว่า มิจฉาทิฐิ.
สองบอกว่า จิตตุ เอกคุป คำว่า มิจฉาทิฐิมีอารมณ์
เป็นอย่างเดียว เหมือนอย่างแน่แท้ เพราะความเป็นจิตมีอารมณ์
มาก เหตุตั้งลงในอารมณนั้น ด้วยการได้ป้องมีวิตกเป็นต้นตามที่
กล่าวแล้ว พระอรรถถากาว่า กล่าวด้วยมุ่งถึงจิต. บทว่า ชวนานิ
ความว่า เมื่อจะแห่งชวนจิตอันเป็นส่วนเบื้องต้น เป็นไปด้วย
อาการนั้นมากครั้ง ชวนจิต ๓ ดวง ย่อมเล่นไปในวาระแห่งชวน
อันมีในที่สุดแห่งชวนทั้งปวง.
คำว่า ปรม ชวน สติกฎจูา โหนุด ตาา ฐทิตีที่สู่น
เป็นเพียงแสดงสภาพธรรม. แต่ในขณะนั้น ใคร ๆ ไม่อาจชมเหล่าน
นให้ถึงความเป็นผู้พอแก้ไขได้. บทว่า ตุตุ ได้แก่ มรรคามิจฉา-
ทัสนะ นั้น. สองบอกว่า เอก ทูลู่ ความว่า ความอึ่มอั่น
และความเสพสุข อันผู้ใดให้เป็นไปในลักษณะนี้นั้นผู้หนึ่งชื่อ
ว่าหยั่งลงสู่สาสนะเดียวเท่านั้น. แต่ความอึ่มอั่นและความเสพสุขอัง