ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๙ - มังคลิจฉาที่นี่เป็นเปล เล่ม ๒ - หน้า. 134
บุคคลผู้มา ให้อยู่ในนรชั้วลดีเท่านั้น อนุคฤยธรรมหล่านั้น
มิ กำหนด ที่สุดก็ปรากฏอยู่ อย่างนี้ ส่วนจิตมิจฉาทัฬฐ์ไม่มี กำหนด
เพราะนยติมนฉาทัฬฐ์นี้ เป็นมูลของวิญญาณ ผู้ประกอบด้วยมิติ
มิจฉาทัฬฐ์นี้ ออกไปจากภาพไม่ได้. นิยมฉาทัฬฐ์บุคคลนั้นอ้อม
ยังพวกชนที่สำคัญคำของเขาว่า ควรฟัง ให้ปฏิบัติผิด ผู้ประกอบ
ด้วยนิยติมนฉาทัฬฐ์นี้แล้ว ย่อมไม่มีสรรค์ ไม่มีบรรลุเลย. ใน
เวลากัลป์ใบนาน แม้เมื่อหาญบังเกิดอยู่ในภพโลก นิยมฉาทัฬฐ์
ทุจฉิตบุคคล ไม่นิยมเกิดในภพโลก (ไฟล์ไป) บ่งเกิดที่หลังจักร-
วาล ถามว่า 'ก็หลังจักราวไฟไหมไหม ?' ตอบว่า 'ไหม.'
อาจารย์บางพวก กล่าวว่า 'แม่มือหลังจักราวนี้ ถูกไฟไหม้ในโอกาสแห่งหนึ่งในอากาศ
นั่นเอง."
[๒๒๓] ก็อจากอธิบดีมาถึงตอนที่ว่านี้ว่า "กล่าวว่า ปรมา
แปลว่า อย่างยิ่ง. อธิบายว่า ถึงความเป็นโทษอย่างถูกอุ้ม เพราะ
มิจฉาทัฬฐ์นี้มีโทษมาก. บทว่า เดส ได้แก่บัณฑิตวิจารณ์ทั้งหลาย
การสิ้นสุดด้วยสามารถวิบาก ชื่อว่า กำหนด. นิยมฉาทัฬฐ์นี้เป็นมูลแห่งวิญญาณ เพราะฉะนั้น บุคคลผู้ประกอบด้วยมิจฉาทัฬฐ์
นั้น จึงชื่อว่า เป็นต่อในวัฏฎะ เหตุดังนี้นั่น พระอรรถกถาวจิจึง
กล่าวว่า 'ตาย' เป็นดัง พระกรรมกถายกว่าว่า 'การ
ออกจากภาพ' ไม่นิ ดังนี้ เพราะถ้าว่า นิยมฉาทัฬฐ์บุคคลยังไม่
๑. ตอนนี้ คดีสดนาพรหมเข้าเทวรณแชง ทำให้คดีพระพุทธศาสนาที่นับถือธรรม หรือ
เหตุผลมาวงไป ผู้มีปัญญาพึงแหวกสาธรรมปฏิรูป ย่อแต่สาธรรมแท้ เทอญ