ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๑ - มังคลัลที่เป็นเปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 166
เป็นมิตร ผู้นั้น ๆ ย่อมแตกกัน โดยแท้
บทว่า อนุปลกัศลวตุตถโน ควาวว่า วาจานันโด คุร้าย
หยาบคาย เศษแง่ง เสียดแทง ตัดเสียงเจ็บช้ำ เขา (ผู้สาวอับบุคคล)
ย่อมได้ฟังแต่ว่านั่นเท่านั้น ในกี่ ๆ ก็ตไปแล้ว ไม่ได้ฟังเสียง
อันน่าพอใจ วิภาคเห็นปานนี้แล ชื่อว่า เป็นทางไปแห่งพุทธสาวก
บทว่า อนุเทยวาจาสัจจุตถโน ควาวว่า ย่อมยังคำที่
ใคร ๆ ไม่พึงให้เป็นไปพร้อม ๆ เขาสัมผัปปลีบุคคล ย่อมถึง
ความเป็นผู้ถูกคนอื่นกล่าวว่า "เหตุไรท่านจึงพูด ใครเขาจักเชื่อคำ
ของท่าน" ดังนี้ วิภาคนี้เปนทางไปแห่งสัมผัปปล.
[๒๖๕] อนึ่ง อาณีพของปิสนวา พึงแสดงด้วยเรื่องของ
สุกวปรต
ดังได็ด้บมา ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ พระ
เถระ ๒ รูป คือ พระมหเถระ มีพระธนาธร มีพรามะ ๖ พระอุปถัมป์ มีพรามะ ๕๕
อยู่พร้อมเพรียงกันประหนึ่งพี่น้องอยู่ร่วมท้องมารดาเดียวกัน ในอาวาส
ใกล้บ้านแห่งหนึ่ง
ที่นั่น กิญจธรรมถึงรูปนั้น มังอวาสนั้น เห็นความถึง
พร้อมด้วยภิทาภาร (วัตร) ประสงค์จะให้ภิทัยทั้ง ๒ รูปนี้ไป
จากอาวาสนั้น ส่วนตนจะได้อยู่ในอาวาสนั้น จึงกล่าวว่า "ท่านขอรับ
ตั้งแต่วันกี้กระผมมาแล้ว พระอนุเคราะห์พูดอย่างนี้ว่า 'ท่านสัตบุตร
ท่านเป็นบุตรของสัตถุ พระมงคลธรนี้ เป็นอัชชี มีศลไม่่านรัก