การเป็นมิตรและวาจาในพระพุทธศาสนา มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม 2 หน้า 166
หน้าที่ 166 / 356

สรุปเนื้อหา

ข้อความในหน้านี้กล่าวถึงแนวคิดเกี่ยวกับความเป็นมิตรและวาจาที่เหมาะสมในพระพุทธศาสนา มุ่งเน้นการพูดคำที่ให้เกียรติและไม่ทำร้ายจิตใจผู้อื่น ผ่านเนื้อหาที่สอดแทรกด้วยประวัติของพระเถระในสมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ แสดงให้เห็นถึงการรักษาความสัมพันธ์อันดีในสังคมพระสงฆ์และบริบทของวาจาที่มีความสำคัญในการดำเนินชีวิต เชื่อมโยงเสียงพูดที่มีคุณภาพกับความเป็นอยู่ร่วมกันของผู้คน เพื่อเสริมสร้างความสามัคคีและความเข้าใจในชุมชน.

หัวข้อประเด็น

-วาจาในพระพุทธศาสนา
-ความสำคัญของมิตรภาพ
-ประวัติพระเถระ
-การสื่อสารที่เหมาะสม
-การสร้างความสัมพันธ์ในสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค ๑ - มังคลัลที่เป็นเปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 166 เป็นมิตร ผู้นั้น ๆ ย่อมแตกกัน โดยแท้ บทว่า อนุปลกัศลวตุตถโน ควาวว่า วาจานันโด คุร้าย หยาบคาย เศษแง่ง เสียดแทง ตัดเสียงเจ็บช้ำ เขา (ผู้สาวอับบุคคล) ย่อมได้ฟังแต่ว่านั่นเท่านั้น ในกี่ ๆ ก็ตไปแล้ว ไม่ได้ฟังเสียง อันน่าพอใจ วิภาคเห็นปานนี้แล ชื่อว่า เป็นทางไปแห่งพุทธสาวก บทว่า อนุเทยวาจาสัจจุตถโน ควาวว่า ย่อมยังคำที่ ใคร ๆ ไม่พึงให้เป็นไปพร้อม ๆ เขาสัมผัปปลีบุคคล ย่อมถึง ความเป็นผู้ถูกคนอื่นกล่าวว่า "เหตุไรท่านจึงพูด ใครเขาจักเชื่อคำ ของท่าน" ดังนี้ วิภาคนี้เปนทางไปแห่งสัมผัปปล. [๒๖๕] อนึ่ง อาณีพของปิสนวา พึงแสดงด้วยเรื่องของ สุกวปรต ดังได็ด้บมา ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ พระ เถระ ๒ รูป คือ พระมหเถระ มีพระธนาธร มีพรามะ ๖ พระอุปถัมป์ มีพรามะ ๕๕ อยู่พร้อมเพรียงกันประหนึ่งพี่น้องอยู่ร่วมท้องมารดาเดียวกัน ในอาวาส ใกล้บ้านแห่งหนึ่ง ที่นั่น กิญจธรรมถึงรูปนั้น มังอวาสนั้น เห็นความถึง พร้อมด้วยภิทาภาร (วัตร) ประสงค์จะให้ภิทัยทั้ง ๒ รูปนี้ไป จากอาวาสนั้น ส่วนตนจะได้อยู่ในอาวาสนั้น จึงกล่าวว่า "ท่านขอรับ ตั้งแต่วันกี้กระผมมาแล้ว พระอนุเคราะห์พูดอย่างนี้ว่า 'ท่านสัตบุตร ท่านเป็นบุตรของสัตถุ พระมงคลธรนี้ เป็นอัชชี มีศลไม่่านรัก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More