ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโฒค ๔ - มังคลัตถีที่เป็นแปล เล่ม ๒ - หน้า ๕๑
ต่อสวรรคฺ ในเพราะพระพฤติภูมิปั้น ใคร ๆ ไม่อาจห้ามได้! อนุหฤ
ทิฏฐิ อภิฤทิฏฐิ และนิฏฐิกฤทิฏฐิ ที่ถึงความเป็นทิฏฐิอธิธิ์
ชื่อว่านิฏฐิธรรมิกฺธรรม,ปฏิสนธิกฤทิฏฐิ"
ก็ศัพท์มีเป็นภาพทุกศัพท์เป็นต้น ในคำว่า ปฏิสนธิฐานดุจฺโถ-
พยฺชนกนานั้น เป็นเพียงอุทธรณี เพราะปฏิสนธิของเหตุสัตว์
แม่ทั้งมวล เป็นอันตรายกิริยธรรมคือวิบาก เจดนเป็นเครื่องวร้าย
พระอริยเจ้าหลายชื่อว่าสุปลวก. สงฆวบัติว่า ตโต ปรั
คือ เมื่หน้าแก่ให้พระอริยเจอตโทษ. สงบว่า อาโปนา
อปฏิวา ได้แก่ อานติ ๓ กง ที่กิญจูบแกล้งละเมิด. ก็ในที่
กิญจูบแกล้งละเมิด โดยที่สุดแม้ทุกกฎและทพพฤติ ย่อมทำอันตราย
ต่อสวรรค์และบรรลุผลได้, อนาวีติกมันตราธิธรรม ย่อมทำ
อันตรายตลอดเวลาที่กู้อบตัปราชัยแล้ว ยังปฏิญาณความ
เป็นภิกฺขุอยู่ ต้องครูกับตนเองนั้นแล้วังก็ไม่อยู่วิภา ต้องสุขาขฺ
แล้วฉะนั้นไม่แดงเสียเท่านั้น, เมื่อหน้าแต่เวลาที่อาบัติ อนุภฺฤ
ทำคืน แล้ววามป้ออันนั้น หาทำอันตรายไม่."
(๒๔๕) ภิกษามักขับขานว่า คำภูจฺจาวรรค ว่า "ก็อัปตฺต-
ฤกษ์ใดเป็นอุกุส อาปฎิภารณัมแม้นั้น อนุภฺฤตองค์ต้องอาบิ
แสดงแล้วก็กลิ, อยูรรมแล้วก็กลิ, หาทำอันตรายไม่, เหมือนอย่างว่า
กรรมคืออดนานเป็นเครื่องว่าร้ายพระอริยะแม้เป็นอุกุส ย่อมชื่อว่า
เป็นอโฆสรามที่ถึงความเป็นกรรมอันหวาบากมิได้เป็นธรรมดา เพราะ
@ ส. ท. ๔/๑๓๖