ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๔ - มังกรดลกที่เป็นเปล เล่ม ๒ - หน้าที่ ๖๙
[๒๑๒] เมื่อการถึงความพินาศในกฎธรรม ก็ถือว่าเป็นอาสาสมัคร
ในข้อนั้น มีเรื่องนี้ (เป็นอุทาหรณ์).
[เรื่องหริตาดบาส]
ดังได้กล่าวมา ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์ได้เป็นพราหมณ์ มีสมบัติประมาณ ๘๐ โกฎิ ในกรุงเทพฯ ก็เพราะพระโพธิสัตว์นั้นมีผิวพรรณดั่งทอง มรรคาดิถิงขนานนามเขาว่า “หาทิ” ดังนี้
โดย ที่บนบานดวงไป พระโพธิสัตว์นั้น ออกบรรพชามิวัน-ประเทศ ในวันที่ ๓ ทำงานและอธิษฐานให้บังเกิด แล้วอยู่ในสถานที่นั้นช้านาน ปรารถนาเสด็จสมคีและรสเปรี้ยว จึ่งไปยังพระอุทยานของพระเจ้ากรุงพาราณสี่ แล้วอยู่ (ในที่นั้น) หาทิ ดาบาส นั้น ค่ำยัน (ภัตตาหาร) ประจำในพระราชนิเวศน์ ๑๒ ปี พระราชา เมื่อเสด็จไปปราบปราจันขนบ ทรงรับสั่งพระราชทวร์ว่า “เธออย่าประมาณบุญเขตของเรา” ดังนี้แล้ว จึงได้เสด็จไป ตั้งแต่นั้นมาพระราชเวียนนั้น ทรงองค์สาครพระมหาสัตว์ ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์, ต่อมาวันหนึ่ง เมื่อพระมหาสัตว์นั้น ชักอ้อมอยู่นะพระนาง ได้เสด็จไป ทรงสนามแล้ว ทรงพระยุเนื้อเลื่ยงแล้ว ให้เปิดสี่บัญชีรอท ทรงบรรรม (เหนือพระแทน) ให้ลำไยพระกายทรงได้ยินเสียงผ้ากากรง ของพระมหาสัตว์ผามทางอากาศ จึงทรงลุกขึ้นโดยเร็ว พระภูษานื้อเกลี้ยง พลัดหลุดแล้ว พระมหาสัตว์นี้วิสฐานาการม สมิด ก็ลึกดำเสด็จนั้น มีนามเสือป่าในตอนนั้นนั้นเอง ไม่อาจจะตั้งสติไว้ได้ เสพอัสสรรรมกับพระราชาเวที ฉัน