ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๕ - มังคลิตที่นี่นเปล เล่ม ๒ - หน้า ๑๐๖
บุคคลผู้ประสงค์จะยังผู้อื่นให้ทราบเรื่องอันไม่จริง โดยความเป็น
เรื่องจริง ชื่อว่า มูลวาสา เพราะวิเคราะห์ว่า "คำเท็จ อันบุคคลอ้อม
กล่าว คือ ย่อมพูด คำๆนั้นนั่น." ที่ในอภิธรรมแห่งมูลวาสานั้นพึ่ง
เห็นสนิทฐานว่า "ท่านกล่าวอีก ๒" ไว้ เพื่อแสดงลักษณะนั้นให้
บริบูรณ์ เพราะลักษณะมูลวาสาในในอีก้อยยังไม่แจ่มแจ้งพอ และเพราะ
มีความที่สุภาพที่เป็นศัพท์บอกความที่จะพึงกล่าวให้ลดเคลื่อนไป
[โทษของมูลวาสา]
มูลวาสานั้น ชื่อว่า มีโทษน้อย เพราะประโยชน์ที่มูลวาทิ-
บุคคลสารานน้อย, ชื่อว่า มีโทมมาก เพราะประโยชน์ที่มูลวาทิ-
บุคคลสารามาก. อีกอย่างหนึ่ง ชื่อว่า มีโทน้อย เพราะผู้ที่
มูลวาที่บุคคลสาราประโยชน์นั้น มีคนน้อย ชื่อว่ามีโทมาก
เพราะผู้นั้นมีคุณมาก ชื่อว่ามีโทน้อย เพราะกลส่อน ชื่อว่า
มีโทมาก เพราะกลส่อนแรงกล้า
[๒๐๑] อีกษัยหนึ่ง สำหรับพวกอคุตสัจ มูลวาทที่เป็นไป
โดยนัยเป็นต้นว่า "ไม่มี" เพราะไม่ประสงค์จะให้ของ ๆ ตน ชื่อว่า
มีโทน้อย มูลวาสาที่มูลวานี้บุคคลเป็นพยาน คำว่า เพื่อกล่าวรา
ประโยชน์ ชื่อว่า มีโทนมาก. สำหรับพวกบรรพชิต มูลวาทที่
เป็นไปโดยปรกาณยีน เป็นต้นว่า "วันนี้น้ำมันในบ้านไหลไปดูจุด
แม่น้ำ" เพราะได้น้ำมันหรือเทนใส่แม่น้ำคนหย่อนแล้ว ประสงค์จะให้
หัวเราะกัน ชื่อว่า มีโทน้อย แต่คนที่ของพวกเธอ ผู้กล่าวสิ่ง
ที่ตนได้เห็นนั้นแล โดยนัยเป็นตนว่า "ข้าเจ้าเห็น" ชื่อว่า