ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๔- มังคลัตถทีปิคำเปล่า เล่ม ๒ หน้า ๗๖
น ปูมว่า นั้น หมายถึงการลามาสังวร" เพราะฉะนั้น แม้ภิกษูอื่น ทำลายสังวรแล้ว ก็พึงทำสังวรให้สมบูรณ์ใหม่ อีกประการหนึ่ง ภิกษุผู้นับถือนิขวีสังวร พึงเป็นภุญวอิติฤทธิ์ฤๅ พึงเป็นคู่พระวิทูริตัณดฤๅฤๅภิกษุตในถ้ำชื่อกะนตะกะ.
[เรื่องพระจิตตตุคตเถระ]
คั่งได้สั่งมา จิทธุรรม (ภาพวิจิตร) เรื่องออกอภิเษก- กรรม์ ของพระพุทธเจ้า ๑ พระองค์ที่นำพินใจ ได้รับในถ้ำชื่อ กรณตกะ พระเถระอยู่ในถ้ำนันเช็น ๖๐ พระยา ยังไม่เคย (เมย หน้า) ลีมตะขึ้นคู่ลาย เพราะท่าน (ทอดดต) ดูเพียงชั่วแอก, เพราะฉะนั้น ท่านจึงไม่รู้แม้ว่า จิทธรรรมอยู่ในถ้ำนัน ถามว่า "วัตรคือการชำระเสนษะ พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า 'ภิกษุพึงกวาดหยากไยลงจากเทวดาแล้ว? ดังนี้ใช่หรือ? พระเถระไม่ชาระเสนษะดอกหรือ?" ตอบว่า "ถูกแล้ว พระเถระห้ามชำระเองไม่พวกนิสิตอื่นเตาวสิกเป็นต้นต่างหาก ชำระเสนษะก่อนน่า" ภายหลังวันหนึ่ง ภิกษุหลายรูปเที่ยวราบไปในเสนษะ เห็นจิทธรรรมแล้ว จึงกล่าวว่า "จิทธรรรมนี้ผลิดผลินใจจริง ท่านขอรับ" พระเถระกล่าวว่า "คุณ ฉันอยู่ในถ้ำตลอดกาลเพียงนั้นยังไม่รู้เลย, อาศัยพวกคุณมิให้ ฉันจึงรู้วันนี้เอง" อึงมิ ที่ประดุถ้าของพระเถระนั้น ยังมิแม้หันกะทิ้งใหญ่ๆ (ต้นหนึ่ง), แม้นกะทิทิ้งนั้น พระเถระไม่เคยเล็ดบงบานเลย. เขาว่าทุกๆ ปี พระเถระเห็นเกสรของดอกกะทิ้งนั่งร่วงที่แผนดินนั้นแล. จึงรู้ว่ากะทิ้ง