ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคส- มังคลัตถิที่เป็นเปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 135
สะลความยึดถืออน่ ๆ ก็เป็นเหตุุนำความเป็นนิยามอาจวิูจษ์นั้นมาอีกได้, แต่ท่านหาได้กล่าวเพราะไม่มีกาออก (จากภาพ) โดยประกังทั้งปวงไม่. ใคร ๆ ไมควกกล่าวว่า จริงจร นิยมิจา- ทิฎฐิบุคคลนี้ อาศัยวิจัยเช่นไรแล้ว หยงลงสู่สันนจะนั้น, ในกลาย เขาอาศัยปัจจัยที่เป็นข้าศึกต่อปัจจัยเช่นนั้น, ก็ศศิริษะขึ้นจากทัสสนะนั้นไม่ใช่ก' ดังนี้. บทว่า ปฏิจฉากวาเทพ คือ บ้างหลังแห่งจักรวาดไฟไหม้อยู่, สงบว่า เอกสุมิ์ โอกาส คือ ในโอกาสแห่งหนึ่ง ซึ่งเช่นเดียวกับระหว่างแห่งจักรวาด ที่ที่ไฟล่างไหม้ทั้งไฟยังไหม้ไม่ไหม อันมีสมญาา โลกันตรกนะ. บางอาจารย์กล่าวว่า บางว่า ปฏิจฉากวา ได้แก้ เมื่องจักรวาดไฟล่างไหม้ดีดียัง
ไม่ไหม้ดี. นินมิจิราณูบุคคลนี้ ย่อมถูกไฟไหม้เพราะกำลังกรรมของตนโดยแท้.
[๒๒๓] อรรถกถานิจกเขปนวณ "กล่าวว่า ยา ๆ มิจฉาวติญู"
นิยตา ความว่า บรรดาเหตุวามะ อธิวิภาะ และนัตถิวามะ
มิจฉาวติญูอ้างใดอย่างนั้น. จริงอยู่ แม้พระพุทธเจ้า ๑๐๐ พระ องค์ก็ว่า พันพระองค์ก็อ่า. ย่อมไม่อาจจะยังบุคคลนี้อยู่ในอึ้งให้ครึมรู้ได้."
ก็ด้วยสองบวกว่า คณะวตุว ธิด นั้น พระอรรถกถาอธิษตรงว่า
"ผัว ๆ มิจฉาวติญบุคคลสะทิฏฐิญุตนี้เสื่อได้ แม้นมรรค ธรรมกะ ก็ไม่ได้ห้ามแท้ๆ. ด้วยเหตุนันนั้นแล ในอรรถกถามีทั้งหลาย