ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๕- มังกีลำถีปีดนี้บนีแปลง เล่ม ๒ - หน้าที่ 10
ทั้งหลาย ก็อรีสวากผู้มีองค์แล้วแกลเอออากุสเสียได้ ทำอุส
ให้เจริญ ย่อมละกรรมอันมีโทษเสีย ทำกรรมไม่มีโทษให้เจริญ
บริหารให้หมดคงจด."
[๓๒๙] อรรถกถาแห่งสูตรต้นของสูตรทั้งหมด ในทุกนิบาด
อังคุตตรนิกาย ว่า "บรรดาคำเหล่านี้ ในคำว่า สุทธมุตตาน
ปรมิตนี้ ความหมดจดมี ๒ อย่าง คือ โดยปริยาย (โดย)
เอกษา ๑ โดยนิบปริยาย (โดยสิ้นสงข) ๑. ก็พระอรหิสสาวก
บริหารอยู่ด้วยสารมัน ชื่อว่าสิทธิให้หมดจดโดยปริยาย ถึง
บริหารอยู่ด้วยศัพท์ ๕ ศิล ๑๐ จตุปริสุขศิล ปฐมาน ทุติยาน
ต tertiary ๑๖๔๙๒๕ ๑๒๖๙๕๕ ๑๙๘๘ ๒๔๓ อาสาญาณญาณ
วณฺญาณญาณ ๒๐อัญญาณญาณวาส scolasticais imperandum. วิญญาณฺญาณ-
ํวงษาชญาณ. โสตาปัตติมวรร โสตาปัดผล อรหัตมรรคา ก็ว่าสิทธิให้บริหาร
หมดโดยปริยายเหมือนกัน.(ส่วน) ท่านผู้สงอยู่ในอรหัตผล
เป็นพระนิพนธ์ยงกุจิข้อนอันมีมูลฐานแล้ว ให้เอาบ้าง ให้เคียง
บ้าง ให้บริโภคบ้าง ให้นั่งบ้าง บันติตพิงทราบ
ว่าบริหารคือปฏิบัติตนให้หมดจด คือหมดจดกันโดยปริยาย
โดยแท้."
ภูมิแห่งบูรณสูตรนั้น ว่า "บทว่า ฉินนุมูลเก" คืือชื่อว่า
มุขูลอ้างอ้งเดิมแล้ว เพราะมูลคือดึงห่านท่านผนอนขึ้นได้แล้ว