ข้อความต้นฉบับในหน้า
คำนำ
พระวิบูลย์ปฏุก แน่งออกเป็น ๕ คัมภีร์ คือ มหาวิบูล ภูคูนี-
วิเศษ มหาวรรณ จุตวรรธ และปริวาร มีอรรถถกฺา ชื่อสมุจ-
ปลาสถกฺ อันเป็นผลงานของพระเกจ์ชาวชมพูทวีป ชื่อพุทธโมย-
นาย รุนาขึ้น เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไปได้ประมาณพันปี พระ
เถรรูปนี้เป็นมหาปราชญ์ ที่ผูกพุทธศาสนชนรู้กันมากในประเทศที
นับถือศาสนาฝ่ายเวทนาทั้งหลาย เพราะท่านได้แปลคัมภีร์วัตรรอดก
พระไตรปิฏกจากภาษาสิงหลมาเป็นภาษาญี่ปุ่น จัดว่าเป็นงานใหญ่
ชั้นสำคัญ เป็นมรดกตกทอดมาถึงเราท่านทุกวันนี้ เมืองไทยได้
ใช้อีกวิธีที่ท่านรจนไว้ เป็นหลักสูตรการศึกษาพระปรีชาธรรมแต่
ประโยค ป. ธ. 3 ถึงประโยค ป. ธ. 8 โดยเฉพาะสมุนปลาสากิกา
อรรถกฺปวินิจฉัยที่ท่านรจนไว้ โดยเต้าใส่โครถราวากเดิม
คือ มหาวรรณ มา peří และกรุ่น เป็นหลัก ดังปรากฏใน
อรมภกฺ ปญฺฉมัณฑก
สมุนปลาสากิกา อรรถกฺปวินิจฉัย ที่จะระพิมพ์เป็น
อักษรไทย ท่านแบ่งเป็น 3 ภาค คือ ภาค 1 พรรณนามในคัมภีร์
มหาวิกัป เริ่มด้วยพาหินทาน เวญญาณฑ์ และปริติ khác ที่เรียก
ว่าอักขิกรรม, ภาค 2 พรรณนาความในมหาวิกัง ตั้งแต่สังฆาทิเสส
ถึงเสวยอวัคฺ และในภาคนี้ก็ง, ภาค 3 พรรณนาความในมหาวังวรรค
ฉวรรธ และปริวาร
ภาค 1-2 องค์กรศึกษาคณะสงฆ์ไทย ได้ประกาศใช้เป็นหลัก
สูตรประโยค ป. ธ. 3 วิชาแปลคมจเป็นไทย และใช้เป็นหลักสูตร
ประโยค ป. ธ. 8 วิชาแปลในสมุจฉบันนี่
ก็คือรดกทั้งหมดหลาย ซึ่งแก้ความพระบาณนี้ พระอาจารย์ผู่
รจนามีความมุ่งหมายเพียงเพื่อจะแปลเผยเนื้อความที่ยังลับ ไว้โดยอรถ