ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (คี) - ปฐมสมันตปาฐกถาแปล ภาค ๑ หน้า 320
[ การกล่าวใส่ร้ายพระอริยเจ้าเป็นอโหสิทิฏฐิ]
บทว่า มิฉฉาทิฏฐิว่า "มีความเห็นบาป"
บทว่า มิฉฉาทิฏฐิคามสมาทานว่า ความว่า "ถือหลงใจใส่ ให้
ชนแต่หลงอธิษฐาน บรรดากรรมีภายรรมีกรรมเป็นต้น ซึ่งมีมิฉฉาทิฏฐิเป็นปัญญา, คนเหล่านั้น ชื่อว่ามีกรรมมนาชนิดอันตนสมาทาน
ถือเอาแล้ว ด้วยอำนาจมิฉฉาทิฏฐิ" "ก็มีบรรยาอริยวาสและมิฉฉาทิฏฐิ
เหล่านั้น แม้มื้อท่านสงเคราะห์รึปลายภาคเข้าด้วยอริยจิตศัพทนันเอง
และมิฉฉาทิฏฐิเข้าด้วยกันโนรัตรคัพ์เช่นกันแล้ว การกล่าวถึงกรรมทั้ง 2 เหล่านี้สำคัญ พึงทราบว่า มีการแสดงถึงข้อที่กรมทั้ง 2 นี้มีโทษ
มากเป็นประโยชน์ จริงอยู่ อริยวาท มีไพบูลนิยมว่ากับอนันตริยกรรม.
เหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้าจัดไว้ว่า "คู่คอสรบุตร! เปรียบ
เหมือนภิภูผู้ดีพร้อมด้วยสิลา ดีพร้อมด้วยสมาธิ ถึงพร้อมด้วยปัญญา
พึงได้ล้มอรหัตผล ในภายภาคู่นี้แห เหมันใจ, คู่่อนสรบุตร!
เรากล่าวข้ออุปไมยนี้ ฉันนั้น บุคคลนั้น ไม่ละจากนันเสย ไมละความ
คิดนันเสย ไม่ชะคืนภิญฺนิษฐเสียแล้ว ต้องถูกโยนลงในบรร (เพราะ
อริยวาท) เหมือนถูกนายรบลำบากโยนลงในธรณีบาน" ก็
กรรมอย่างอื่น ชื่อว่ามีโทษมากกว่ามิฉฉาทิฏฐิอยู่มิมิ เหมือนอย่างที่
พระผู้พระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า "คู่่อนไภิภูทั้งหลาย! เร่งไม่เลิ่งเห็น
แม้ธรรมอย่างหนึ่งอื่น ซึ่งมีโทษมากกว่ามิฉฉาทิฏฐิยนนี้เลย
ภิภูทั้งหลายมีมิฉฉาทิฏฐิเป็นอย่างงี้" ดังนี้