ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโโยค - ปฐมสัมผัสคำสิกาแห่งภาค ๑ - หน้า 326
ด้วยคำเป็นต้นว่า "ชาติสิ้นแล้ว." จริงอยู่ พระปภากาเจ้า
เมื่อทรงพิจารณาถ้อยคำพระญาณนั้น ก็ได้ทรงรู้แจ้งแล้วชึ่งทุกสัจเป็นต้น
ว่า "ชาติสิ้นแล้ว."
ถามว่า "ชาติไหนของพระผู้มีพระภาคเจ้าชื่อว่า สิ้นแล้ว
และพระองค์ทรงรู้ชาตินั้นได้อย่างไร?"
ข้าเจ้าจะกล่าวเฉลยต่อไป- ชาติที่เป็นอดีต ของพระองค์
ชื่อว่าไม่สิ้นไปก่อน (ด้วยมรรคภาวนา) เพราะชาตินั้นสิ้นไปแล้ว
ในกาลก่อน, ชาตที่เป็นอนาคต ของพระองค์ชื่อว่ายังไม่สิ้นไป เพราะ
ไม่มีความพยายาม ในอนาคต, ชาติที่เป็นปัจจุบัน ของพระองค์ ก็
ชื่อว่ายังไม่สิ้นไป เพราะชาติม@y@อยู่. ส่วนชาติใด อันดับใดโดยประเภท
คือนั่น ๑. นั้น ๒. และนั่น ๓. ที่จะพึงเกิดขึ้นในแต่โอกาสภาพ
ดูโอกาสภาพและปัญญาโอกาสภาพ เพราะยังมีได้อบรมมรรค ชาติั้น
จึงว่าชั้นไปแล้วเพราะถึงความไม่สิ้นคันเป็นธรรมดา เหตุมีมรรคอ่อน
ได้อบรมแล้ว, พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ครั้นทรงพิจารณาถึงกสิส
ที่พระองค์จะด้วยมรรคภาวนาแล้ว ทรงตรัสว่า "เมื่อไม่มีสิ้นส
กรรมแตกเมื่ยงอยู่ ก็ไม่มีปฏิสนธิต่อไป" จึงซึ้งว่าไจด้ทรู้ชาตินั้นแล้ว
บทว่า ฑุสิต ความว่า ( พรหมจรรย์) อันเรายู่แล้ว คืออยู่
จนแล้ว, อธิบายว่า "อันเรากระทำ ประพฤติ ให้สำเร็จแล้ว."
บทว่า พุทธมนตรี ได้แก่มรรคพรหมจรรย์. จริงอยู่ พระเสน-
บุคคล ๙ จำพวก รวมกับลกาณญาณูชน ที่ชื่อว่า ย่อมอยู๋รวม
พรหมจรรย์. พระจินาศมีการอยู่พรหมจรรย์แล้ว. เพราะฉะนั้น