ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค (๔) ย่อมงามผิวพาขี่ข้ามได้ด้วยดี โดยสงรรธรรม
(๕) ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติ เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัตย์ธรรม :"
[วิปัสสนาภาคปฏิบัติให้บรรลุความหลุดพ้นจากกิเลสเบซน์ที่สุด]
ถือประกาศหนึ่ง กุศลธรรมเหล่าใด ซึ่งมีสัจเป็นผู้สม เป็นบุญ
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้แล้ว บุคคลผู้งวิ่นนั้นแล ชื่อว่าเป็น
ทายาทแห่งกุศลธรรมเหล่านั้น เพราะธรรมเหล่านั้น มีวิถีเป็นบุญ.
สมจริงดังคำที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า :-
"วิบาย ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่สรณะ (ความสำรวม), สังวร
ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิปัสสา (ความไม่เดือร้อน ), วิปปฏิ-
สาร ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ความแก้วความปราโมทย์, ความปราโมทย์ ย่อม
มีเพื่อประโยชน์แก่ปิติ (ความอิ่มใจ ), ปีติ ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่
ไสส mō (ความสงบ ), ไสส mō ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ความสุข,
ความสุข ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่สมาธิ (ความตั้งใจมั่น ), สามี ย่อม
มีเพื่อประโยชน์แก่กุศลญาณทัสสนะ (ความรู้เห็นตามเป็นจริง),
ยากาญญาทน์ทัสสนะ ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่พิจารณาทัศสนะ (ความรู้เห็นตามเป็นจริง),
วิปุญฺญาณทัสสนะ ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่ปฏปณิพพาน
(ความดับสนิทหายะ, นิปพิทา ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิวราศ (ความสำรอกกลศสา),
วิรฺชา ย่อมมีเพื่อประโยชน์แก่วิภูมิคติ( ความหลุดพ้น ) วิภูติ ย่อม
มีเพื่อประโยชน์แก่วิภูมิคติญาณทัสสนะ ( ความรู้เห็นความหลุดพ้น ),
วิมุตฺตญาณทัสสนะ ย่อมีเพื่อประโยชน์แก่อนุปาปปิทธพาน
( ความดับสนิทหายได้), กรากล้า การปริยา ธิรธานังใกล้